FBS รีวิว: รีวิวปี 2025
FBS มีเฉพาะบัญชี Standard บวกกับแพลตฟอร์มการเทรด MT4 และ MT5 ดังนั้นจึงเป็นโบรกเกอร์ที่ค่อนข้างธรรมดา ซึ่งถือเป็นอะไรที่แปลกใหม่จากโบรกเกอร์อื่น ๆ เนื่องจากโบรกเกอร์ส่วนใหญ่เสนอตัวเลือกที่ไม่รู้จบและบางครั้งทำให้คุณสับสนว่าควรเปิดบัญชีประเภทใด

Written by Justin Grossbard
Updated:
- 67 Forex Brokers reviewed by our expert team (See our top 10 picks)
- 50+ years combined forex trading experience
- 14,000+ hours comparing brokers in the past 12 months
- Structured and in-depth evaluation framework (Our Methodology)
Our broker reviews are reader supported and we may receive payment when you click on a partner site. For more information, visit our About Us page.
สรุปภาพรวมของ FBS

🏛️ กฎ | FSC – เบลีซ, CySEC |
💰 ค่าเทรด | สเปรดต่ำ |
📊 แพลตฟอร์ม | FBS App, MT4, MT5 |
💰 เงินฝากขั้นต่ำ | $5 |
💰 ค่าฝาก/ถอน | $0 |
🛍️ เครื่องมือเทรด | Forex, คอมมอดิตี้, ดัชนี, หุ้น |
💳 ฝากผ่านบัตรเครดิต | มี |
ทำไมถึงเลือก FBS
ส่วนตัวแล้ว ผมไม่คิดว่า FBS เป็นโบรกเกอร์ที่น่าสนใจอะไรนัก พวกเขามีเพียงบัญชี Standard เท่านั้นและมีแพลตฟอร์มการเทรด MT4 และ MT5 ทั่วไป ซึ่งก็ถือว่าดี แต่โบรกเกอร์อื่นๆ ก็มีแพลตฟอร์มแบบเดียวกัน ถึงอย่างนั้น FBS ก็มีสเปรดและส่วนการศึกษาที่ดี ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ต้นทุนต่ำที่มีแหล่งข้อมูลฟอเร็กซ์ที่ดี FBS อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
ข้อดีและข้อเสียของ FBS
- ตลาดที่หลากหลาย
- ส่วนการศึกษาแบบโต้ตอบ
- หน่วยบริการลูกค้าที่ตอบสนอง
- มีเพียงบัญชี Standard เท่านั้น
- ไม่มีซอฟต์แวร์การ copy trade เฉพาะทาง
- ไม่มีแพลตฟอร์ม TradingView หรือ cTrader
The overall rating is based on review by our experts
ค่าธรรมเนียมและประเภทบัญชีของ FBS
FBS มีบัญชีเทรดเพียงประเภทเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือบัญชี Standard ซึ่งเป็นบัญชีที่มีแค่ค่าสเปรดเท่านั้น (หมายความว่าไม่มีคอมมิชชัน) ในอดีต FBS เคยให้คุณเลือกประเภทบัญชีได้หลายประเภท เช่น บัญชี Cent Micro ECN Zero-Spread และ Pro โดยส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกผิดหวังกับเรื่องนี้ เนื่องจากตัวเลือกบัญชีช่วยให้คุณค้นหาประเภทบัญชีที่เหมาะสมกับความต้องการในการเทรดหรือสไตล์การเทรดของคุณได้ ยกตัวอย่างเช่น บัญชี ECN จะดึงดูด scalper และเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์
บัญชี Standard ของ FBS มีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.7 pips สำหรับคู่ EURUSD และโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 0.9 pips โดยไม่มีค่าคอมมิชชันเพิ่มเติม ผมคิดว่าสเปรดเหล่านี้ไม่น้อยหน้าใครและต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมเล็กน้อยอีกด้วยสำหรับบัญชีประเภทนี้
ต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงบางส่วนที่ผมรวบรวมเกี่ยวกับบัญชี Standard ของ FBS:
- การดำเนินการคำสั่งเพียง 0.40 วินาที
- No-dealing desk และ การดำเนินการแบบ STP (FBS ไม่ใช่ผู้สร้างสภาพคล่อง)
- ขนาดล็อตเริ่มที่ 0.01 (ไมโครล็อต) จนถึง 500 ล็อต
- สามารถเปิดได้มากถึง 500 โพซิชั่น
- ไม่มีการรีโควต
- ใช้ $5 เพื่อเปิดบัญชี
- ตัวเลือกสกุลเงินบัญชี USD และ EUR
- สเปรดแบบแปรผัน
- ไม่มีค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน
FBS เป็นโบรกเกอร์แบบ no dealing desk โดยดำเนินการตามคำสั่ง Straight Through Processing (STP) สำหรับผมแล้ว ถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเล็กน้อย เนื่องจากโบรกเกอร์ที่มีเพียงบัญชี Standard มักจะเป็นผู้สร้างสภาพคล่อง โครงสร้างพื้นฐานของ STP ควรทำให้สเปรดมีการแข่งขัน คุณจะพบว่าสเปรดเหล่านี้แปรผันแทนที่จะคงที่ และใช้การดำเนินการตามตลาดแทนที่จะเป็นการดำเนินการทันที ดังนั้นคุณจะไม่ถูกรีโควต
สเปรดบัญชี Standard
เนื่องจาก FBS เสนอเฉพาะบัญชี Standard ผมจึงอยากทราบว่าบัญชีนี้มีความสามารถในการแข่งขันกับโบรกเกอร์ชั้นนำรายอื่นๆ มากแค่ไหน ตามเว็บไซต์ของ FBS สเปรดของฟอเร็กซ์สำหรับประเภทบัญชีนี้เริ่มต้นที่ 0.7 pips อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์ไม่ได้เปิดเผยสเปรดขั้นต่ำหรือเฉลี่ย ซึ่งในตอนแรกทำให้ลำบากในการเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่นๆ
สเปรดบัญชี Standard ที่เผยแพร่ของ FBS (เอามาจากเว็บไซต์ของเหล่าโบรกเกอร์)
Standard Account Spreads
|
|||||
---|---|---|---|---|---|
![]() |
0.90 | 1.10 | 1.60 | 1.00 | 1.10 |
![]() |
1.10 | 1.20 | 1.40 | 1.40 | 1.40 |
![]() |
0.62 | 0.77 | 1.27 | 0.83 | 0.74 |
![]() |
1.00 | 1.20 | 1.00 | 1.00 | 1.10 |
![]() |
1.00 | 1.40 | 1.60 | 1.20 | 1.10 |
![]() |
1.00 | 1.00 | 1.50 | 2.00 | 1.00 |
![]() |
1.60 | 1.60 | 1.60 | 1.60 | 1.60 |
![]() |
1.60 | 1.60 | 1.80 | 1.90 | 1.50 |
![]() |
1.00 | 1.50 | 1.50 | 3.00 | 0.90 |
![]() |
1.32 | 1.95 | 1.37 | 1.70 | 1.40 |
Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 04/01/2025
ผมสร้างตารางนี้ขึ้นเพื่อแสดงค่าสเปรดเฉลี่ยในบัญชี Standard จากเว็บไซต์ของโบรกเกอร์รายอื่น สำหรับ EUR/USD นั้น IC Markets และ OANDA แสดงค่าสเปรดเฉลี่ยที่เผยแพร่ดีที่สุดที่ 0.62 pips และ 0.60 pips ตามลำดับ
เจ้าอื่นๆอย่าง Pepperstone Eightcap และ eToro ยังแสดงสเปรดที่น่าดึงดูดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1 pips ถึง 1.12 pips ผมคิดว่าสเปรดนี้จะอยู่ที่ประมาณระดับเดียวกับสเปรดโดยเฉลี่ยของ FBS เนื่องจากจุดเริ่มต้นก็อยู่ที่ 0.7 pips แล้ว
บัญชีปลอดสวอป
สวอปคือดอกเบี้ยข้ามคืนที่ใช้กับโพซิชั่นที่เปิดอยู่ เนื่องจากสวอปไม่สอดคล้องกับหลักการทางการเงินของศาสนาอิสลาม (ที่เรียกว่ากฎหมายชารีอะห์) จึงทำให้มีบัญชีที่ปลอดสวอปให้ใช้ ซึ่งแตกต่างจากโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ที่ต้องมีหลักฐานยืนยันการนับถือศาสนาอิสลามจึงจะมีสิทธิ์เปิดบัญชีนี้ได้ แต่ FBS เสนอบัญชีนี้ให้กับทุกคนโดยไม่ต้องมีหลักฐาน แทนที่จะใช้สวอป FBS จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมคงที่สำหรับทุกโพซิชั่นที่เปิดเป็นเวลา 2 วันขึ้นไป
ในการสนทนากับเจ้าหน้าที่ ผมได้รับแจ้งว่าหากต้องการเปิดใช้งานบัญชีปลอดสวอป ผมควรส่งคำขอไปยัง FBS และจัดเตรียมเอกสารต่อไปนี้ให้กับพวกเขา:
- สำเนาเอกสารแสดงตัวตนที่คุณใช้สำหรับการยืนยันบัญชีของคุณ
- หมายเลขบัญชีที่คุณต้องการเปิดใช้งานตัวเลือกไร้ค่าสวอป
ในบางกรณี คุณควรระบุด้วยว่าคุณต้องการเปิดใช้งานเฉพาะบัญชีเทรดบัญชีเดียวหรือสำหรับบัญชีที่มีอยู่ทั้งหมด
ข้อสรุปเรื่องบัญชีของ FBS
ผมชอบที่ FBS มีบัญชีเพียงบัญชีเดียว ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องลำบากในการเลือกบัญชีที่เหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุด อย่างไรก็ตาม หากคุณเทรดบ่อย บัญชี Raw ที่คิดค่าคอมมิชชันก็ยังดีกว่า อย่างไรก็ตาม FBS ไม่มีบัญชีนี้ ดังนั้นคุณอาจอยากจะพิจารณาใช้โบรกเกอร์อื่นหากเป็นกรณีนี
ความเร็วในการดำเนินการ
FBS ใช้เทคโนโลยี Non-Dealing Desk (NDD) และ Straight Through Processing (STP) สำหรับการดำเนินการคำสั่ง ด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ คำสั่งซื้อของคุณจะถูกส่งไปยังผู้ให้บริการสภาพคล่องโดยตรง ส่งผลให้ดำเนินการได้รวดเร็ว ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ของ FBS คำสั่ง 95% เสร็จสิ้นในเวลาเฉลี่ยเพียง 0.40 วินาที
FBS มีบริการเซิร์ฟเวอร์พิเศษ หรือที่เรียกว่า VPS เพื่อช่วยให้การส่งคำสั่งซื้อขายเร็วขึ้น ระบบนี้ช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงานให้สูงสุด และยังทำงานได้แม้ตอนที่คุณออฟไลน์ ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลว่าการเทรดของคุณจะมีปัญหาเมื่อไฟดับหรืออินเทอร์เน็ตมีปัญหา
แพลตฟอร์มการเทรด
สำหรับแพลตฟอร์มการเทรด FBS ได้จำกัดตัวเลือกให้เหลือเพียง MetaTrader4 MetaTrader5 และแอป FBS ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเท่านั้น
- MetaTrader4 (MT4) – แนะนำสำหรับมือใหม่เนื่องจากมีแผนภูมิตัวเลขและเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องการเริ่มต้นใช้งานระบบอัตโนมัติด้วย Expert Advisors (EA) นอกจากนี้ FBS ยังเสนอ MT4 MultiTerminal หากคุณจัดการบัญชีหลายบัญชีพร้อมกัน
- MetaTrader5 (MT5) – MT5 มาพร้อมเครื่องมือและฟีเจอร์ต่างๆ มากกว่า MT4 ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากกว่าหากคุณกำลังทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง ฟีเจอร์ที่น่าสนใจบางส่วนได้แก่ Depth of Market (DoM) และปฏิทินเศรษฐกิจ
- แอป FBS – เหมาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการเทรดในทุกๆที่ แอป FBS เป็นแอปมือถือที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ FBS ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ดี รวมถึงการประสานกับ TradingView สำหรับการทำแผนภูมิ
1. MetaTrader4
หากคุณยังใหม่เรื่องการเทรดหรือต้องการเทรดฟอเร็กซ์เป็นหลัก MetaTrader4 ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เหตุผลอย่างหนึ่งเลยคือ MT4 เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เนื่องจากทำหน้าที่ได้ดีในการจัดเตรียมสิ่งจำเป็นที่คุณต้องการสำหรับการเทรดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ MT4 ยังมีสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ที่ดีที่สุดอีกด้วย เนื่องจากได้รับความนิยม จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่สื่อการเรียนรู้ MT4 จะเข้าถึงได้ง่ายและมักจะฟรี
แม้ว่าจะอยู่ในตลาดมาสักระยะแล้ว ในความคิดของผม ฟีเจอร์ของ MT4 ยังคงเป็นที่นิยมเสมอ โดยปกติแล้วนี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับ:
- 30 อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค 23 เครื่องมือวิเคราะห์ และ 9 กรอบเวลาเพื่อเทรด CFD ในฟอเร็กซ์ หุ้น ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์
- มีอินดิเคเตอร์ยอดนิยม ได้แก่ Moving Averages MACD RSI และ Bollinger Bands
- มีเครื่องมือวาดที่ใช้มากที่สุด ได้แก่ เส้นแนวโน้ม เส้นแนวนอน และเส้นแนวตั้งสำหรับวางระดับจุด stop loss และ จุด take profit
- สำหรับการทำงานอัตโนมัติ คุณสามารถตั้งค่า Expert Advisor (EA) บน MT4 เพื่อสร้างอินดิเคเตอร์ที่กำหนดเองด้วยภาษาการเขียนโปรแกรม MLQ4 หรือคุณสามารถซื้อได้จากตลาด MLQ4
มีการเทรดแบบคลิกเดียวซึ่งช่วยให้คุณดำเนินการเทรดได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียวบนแดชบอร์ดของคุณ
FBS ยังเสนอ MT4 MultiTerminal สำหรับการจัดการบัญชี MT4 หลายบัญชีจากเทอร์มินัลเดียวพร้อมกัน การใช้สิ่งนี้ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบและควบคุมสถานะของโพซิชั่นที่เปิดอยู่และคำสั่งที่รอดำเนินการ ขณะเดียวกัน คุณยังสามารถรับการเสนอราคาและข่าวสารแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย ซึ่งสะดวกมากหากคุณวางแผนที่จะจัดการบัญชี MT4 มากกว่าหนึ่งบัญชี มิฉะนั้น คุณก็สามารถเลือกใช้เวอร์ชันพื้นฐานได้เลย
เพื่อให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น ผมคิดว่า MetaTrader4 เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหากเป้าหมายของคุณคือการมีประสบการณ์การเทรดที่ปราศจากความเครียด MT4 มีชื่อเสียงในด้านการใช้งานที่ง่าย และส่วนใหญ่แล้ว คุณจะพบว่าตัวเองคุ้นเคยกับการใช้งานฟีเจอร์และเครื่องมือต่างๆ ของ MT4 ในเวลาไม่นาน
2. MetaTrader5
MT5 มีฟีเจอร์เกือบทั้งหมดที่คุณจะพบได้ใน MT4 ดังนั้นโดยรวมแล้ว ผมคิดว่า MT5 ไม่ใช่แพลตฟอร์มใหม่ทั้งหมด แต่เป็นเวอร์ชันที่พัฒนาแล้วของ MT4
ฟีเจอร์พิเศษบางอย่างที่คุณจะพบใน MT5 ที่ไม่มีใน MT4 ได้แก่:
- คุณสามารถเทรดหุ้น CFD บน MT5 ได้เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้สร้างขึ้นสำหรับการเทรดทั้งแบบรวมศูนย์และแบบกระจายศูนย์
- มีแผนภูมิ อินดิเคเตอร์ กรอบเวลา และประเภทคำสั่งมากขึ้น (อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค 38 รายการ วัตถุวิเคราะห์ 44 รายการ กรอบเวลา 21 รายการ)
- ความสามารถในการทดสอบย้อนหลังที่ดีขึ้นเนื่องจากการประมวลผล 64 บิตของ MT5
- มีเครื่องมือ Depth of Market และปฏิทินเศรษฐกิจ
ผมต้องการจะอธิบายเรื่องนี้อย่างง่ายๆ โดยบอกว่า MT5 สามารถทำงานได้ดีกว่าสำหรับเทรดเดอร์ขั้นสูง คุณสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือต่างๆ เช่น Depth of Market ซึ่งแสดงราคาแบบเรียลไทม์โดยตรงจากผู้ให้บริการสภาพคล่อง เพื่อช่วยให้คุณรับรู้ถึงแนวโน้มการเคลื่อนไหวของอุปทานและอุปสงค์ในแต่ละระดับราคาได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีประเภทแผนภูมิเพิ่มเติม เช่น Renko และ Range ซึ่งคุณจะชื่นชอบเมื่อทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างละเอียด
เช่นเดียวกับ MT4 MT5 ช่วยให้คุณใช้ Expert Advisors สำหรับการเทรดอัตโนมัติได้ และคุณสามารถพัฒนาอินดิเคเตอร์ที่กำหนดเองได้ ในทางกลับกัน คุณจะต้องเขียนสิ่งเหล่านี้ใน MQL5 ไม่ใช่ MQL4 ของ MT4 เนื่องจากภาษาการเขียนโปรแกรมทั้งสองภาษาไม่สามารถเข้ากันได้ และ MLQ5 มีชื่อเสียงในชุมชนการเทรดว่าไม่ใช่ภาษาที่เข้าใจง่ายเท่าไรนัก
ในแง่บวก ผมพบว่า MT5 นั้นมีอนาคตที่ดีกว่า เนื่องจากมีข่าวลือว่า MetaQuotes จะยกเลิก MT4 สักวันหนึ่ง ในปัจจุบัน MT5 มีฐานผู้ใช้เล็กกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน แต่โบรกเกอร์เริ่มรวม MT5 เข้าในรายการแพลตฟอร์มของตน ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงอนาคตที่สดใส
3. แอป FBS
ในความคิดของผม การมีแพลตฟอร์มการเทรดอย่างน้อยหนึ่งแพลตฟอร์มที่ให้คุณเทรดได้ทุกที่นั้นแทบจะเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยสำหรับเทรดเดอร์ทุกคน FBS มีแอปมือถือที่เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งช่วยให้คุณทำการวิเคราะห์ทางเทคนิค ฝากเงินและถอนเงินจากบัญชีของคุณ และดำเนินการเทรดของคุณในตราสารมากกว่า 550 รายการจาก FBS ได้ในแพลตฟอร์มเดียว
แอป FBS มาพร้อมกับเครื่องมือและอินดิเคเตอร์มากกว่า 90 รายการที่คุณสามารถใช้เพื่อระบุแนวโน้มราคาและตัดสินใจเทรดได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม แอปนี้ไม่ครอบคลุมเท่า MT4 และ MT5 ด้วยเหตุผลที่ชัดเจนว่าแอปนี้ถูกสร้างขึ้นมาให้กะทัดรัดและใช้งานง่าย
เป็นสิ่งที่ควรจะคาดไว้อยู่แล้วเนื่องจากทุกอย่างถูกบรรจุอยู่ในแอปขนาดเล็กที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานบนมือถือ แต่แนวคิดหลักคือการมีแพลตฟอร์มการเทรดที่มีฟังก์ชันการทำงานที่ดีซึ่งให้ฟังก์ชันที่เกือบจะเหมือนกันกับแพลตฟอร์มบนเว็บ
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นคือแม้ว่า FBS จะไม่ให้บริการ TradingView เป็นแพลตฟอร์มการเทรดบนเว็บแบบสแตนด์อโลน แต่คุณยังสามารถวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยใช้แผนภูมิ TradingView โดยตรงภายในแอป FBS สำหรับผู้ที่ใช้แพลตฟอร์มการสร้างแผนภูมิที่มีชื่อเสี่ยงนี้ การสามารถเข้าถึง TradingView ได้แม้จะผ่านแอปมือถือก็ถือเป็นเรื่องดี
คุณสามารถดาวน์โหลดแอป FBS ได้ใน Apple App Store และ Google Play Store และให้คุณเทรดได้ทั้งในบัญชีทดลองและบัญชีจริง
ข้อสรุปเรื่องแพลตฟอร์มการเทรดของ FBS
ในความเห็นตรงๆของผม FBS มีแพลตฟอร์มการเทรดที่จำกัดซึ่งอาจเป็นลำบากสักหน่อยหากคุณกำลังมองหาความหลากหลาย นอกจากนี้โบรกเกอร์ยังไม่มีบริการ copy trade ซึ่งอาจเป็นฟีเจอร์เพิ่มเติมที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม การที่พวกเขามีแอปมือถือที่เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งช่วยให้คุณเทรดได้ทุกที่อย่างสะดวกสบายก็ช่วยได้
FBS ปลอดภัยไหม
FBS ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2009 และประสบการณ์ 15 ปีในตลาดนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งโบรกเกอร์เปิดดำเนินการมานานเท่าไร ก็ยิ่งถือว่าโบรกเกอร์มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ FBS ยังอ้างว่ามีลูกค้ามากกว่า 27 ล้านรายในกว่า 150 ประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเข้าถึงที่กว้างขวางของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม สถานะการกำกับดูแลยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ เนื่องจากสิ่งนี้บ่งบอกถึงการปฏิบัติตามหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่เชื่อถือได้ของโบรกเกอร์
การกำกับดูแล
การกำกับดูแล
การดำเนินงานของ FBS ในประเทศไทยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Financial Services Commission (FSC) ของเบลีซ ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลระดับ tier-3 FSC เบลีซกำหนดให้ธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการกำกับดูแลที่ยอมรับได้ แต่สิ่งนี้ไม่ได้รับประกันทันทีว่าธุรกิจเหล่านั้นน่าเชื่อถือ ด้วยความโปร่งใสอย่างเต็มที่ FSC Belize ไม่ได้มีชื่อเสียงระดับนานาชาติที่ใหญ่โตนัก เนื่องจากไม่มีข้อกำหนดที่เข้มงวดในระดับเดียวกับหน่วยงานกำกับดูแลระดับ tier-1
ในทางกลับกัน FBS อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลระดับ tier-1 เช่น Australian Securities and Investments Commission (ASIC) ในออสเตรเลีย และ Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) ในสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม คุณควรทราบว่าการกำกับดูแลเหล่านี้ไม่ได้มีผลโดยตรงกับคุณในฐานะเทรดเดอร์ในประเทศไทย เพราะคุณกำลังทำธุรกรรมกับบริษัท FBS ที่ให้บริการทั่วโลก
ความปลอดภัยของเงินทุน
นอกเหนือจากเรื่องการกำกับดูแลแล้ว ผมมั่นใจว่าเงินทุนของคุณปลอดภัยกับ FBS ไม่เพียงแต่บัญชีของคุณจะถูกแยกเก็บออกมา แต่การถอนเงินยังได้รับความปลอดภัยด้วยรหัสผ่านใช้ครั้งเดียว (OTP) และการชำระเงินที่ปลอดภัยแบบ 3D นอกจากนี้ FBS ยังปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยของอุตสาหกรรมบัตรชำระเงินอีกด้วย
การป้องกันยอดเงินติดลบ
หากเป็นประโยชน์ โบรกเกอร์มีการแยกเก็บเงินทุนของลูกค้าเป็นการเฉพาะ ตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และระเบียบการดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ ซึ่งหมายความว่า เมื่อคุณฝากเงินเข้าบัญชีเทรด เงินของคุณจะถูกเก็บไว้ในบัญชีแยกที่บริหารจัดการโดยสถาบันการเงินระดับสูง
FBS ยังมีการคุ้มครองยอดเงินคงเหลือติดลบ ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าบัญชีของคุณจะไม่สูญเสียเกินกว่าจำนวนเงินฝากเริ่มต้น แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
ข้อสรุปเรื่องความน่าเชื่อถือของ FBS
จากประสบการณ์หลายปีของพวกเขา FBS โดยรวมแล้วถือว่าน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ ยังมีสถานะที่มั่นคงในกว่า 150 แห่ง และมีลูกค้ามากกว่า 27 ล้านคน อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ไทยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FSC เบลีซ ซึ่งไม่ได้มีชื่อเสียงดีที่สุดในระดับสากล
การฝากเงินและการถอนเงิน
FBS ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการฝากหรือถอนเงิน สามารถฝากเงินได้โดยใช้ Thai QR ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงเทพ แต่ที่แปลกคือคุณไม่สามารถใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต เช่น Visa MasterCard หรือ AMEX ในการฝากเงินได้
ในขณะที่การถอนเงินสามารถทำได้ผ่านการโอนเงินจากธนาคาร (จากธนาคารไทยส่วนใหญ่) STICPAY Visa Maestro และ Perfect Money โดยคุณสามารถถอนเงินไปยังบัตรเดบิตได้ แต่สามารถถอนได้เฉพาะ Visa และ Maestro เท่านั้น ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียม 2 ยูโร
วิธีการฝากเงิน:
- Thai QR
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารกรุงเทพ
วิธีการถอนเงิน:
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ธนาคารกรุงเทพ
- ธนาคาร CIMB
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต
- ธนาคารเกียรตินาคิน
- Visa Maestro (ค่าธรรมเนียม 2 ยูโร)
- STICPAY
เงินฝากขั้นต่ำ
สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย เงื่อนไขการฝากขั้นต่ำเพียง $5 ทำให้เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีเงื่อนไขต่ำที่สุดที่ผมได้ทดสอบมา ซึ่งทำให้ FBS เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณเริ่มต้นด้วยเงินทุนจำนวนน้อย
สกุลเงินพื้นฐานบัญชี
สกุลเงินพื้นฐานจำกัดอยู่เพียงแค่ USD และ EUR เท่านั้น
ข้อสรุปเรื่องการจัดการเงินทุนของ FBS
ผมชื่นชมที่ FBS ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการฝากหรือถอนเงิน และมีวิธีการฝากที่หลากหลายเพื่อให้ประสบการณ์การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างราบรื่น โดยมีการฝากขั้นต่ำเพียง $5 ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีหากคุณต้องการเข้าตลาดด้วยเงินทุนจำกัด
ความหลากหลายของตลาด
FBS มีผลิตภัณฑ์ CFD ให้เลือกมากกว่า 550 รายการในตลาดฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ (พลังงานและโลหะ) หุ้น และดัชนีต่างๆ
ฟอเร็กซ์
FBS ให้การเข้าถึงคู่สกุลเงินหลัก 27 คู่ รวมถึงคู่ที่เป็นที่นิยมอย่าง AUD/USD EUR/USD EUR/GBP และ USD/CAD นอกจากนี้ โบรกเกอร์ยังมีคู่สกุลเงินพิเศษอีก 49 คู่ ซึ่งรวมถึงสกุลเงินอย่าง เปโซของเม็กซิโก โครนของเดนมาร์ก หยวนของจีน ซลอตี้ของโปแลนด์ ลีร่าของตุรกี และแรนด์ของแอฟริกาใต้
ในด้านการเทรดฟอเร็กซ์ คุณมีความยืดหยุ่นในการเลือกและปรับเลเวอเรจ โดยมีตัวเลือกสูงสุดถึง 3000:1
สินค้าโภคภัณฑ์
สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ FBS มีสินทรัพย์พลังงานสามชนิด ได้แก่ น้ำมันดิบเบรนท์ (XBRUSD) ก๊าซธรรมชาติ (XNGUSD) และน้ำมันดิบ WTI (XTIUSD) โดยมีเลเวอเรจสูงสุดถึง 200:1
นอกจากนี้ คุณยังสามารถเข้าถึงโลหะมีค่า ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย มอบการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและทำหน้าที่เป็นการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน สภาพคล่องที่สูงของโลหะมีค่าช่วยให้มีโอกาสในการเทรดมากมาย โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน
FBS มีสินค้าโภคภัณฑ์โลหะ ได้แก่ แพลเลเดียม แพลตินัม เงิน (XAG/EUR และ XAG/USD) และทองคำ (XAUAUD XAUEUR XAUGBP และ XAUUSD) โดยมีเลเวอเรจสูงสุดถึง 500:1
ดัชนี
FBS มีดัชนีให้เทรด 11 ตัว โดยมีเลเวอเรจสูงสุดถึง 200:1 ซึ่งรวมถึง:
- AU200
- DE30
- ES35
- EU50
- FR40
- JP225
- UK100
- HK50
- US30
- US100
- US500
นอกจากนี้ ยังมีการจ่ายหรือหักเงินปันผลสำหรับดัชนีเหล่านี้ ซึ่งเป็นโอกาสเพิ่มเติมสำหรับเทรดเดอร์อีกด้วย
หุ้น
FBS มีหุ้นให้เทรด 308 ตัว โดยมีเลเวอเรจสูงสุดถึง 100:1 ในฐานะผู้ถือหุ้น คุณอาจมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งจากกำไรสุทธิของบริษัทในรูปแบบเงินปันผล หากบริษัทมีกำไรและเลือกที่จะจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุน
บางส่วนของหุ้นที่คุณสามารถเทรดได้ที่ FBS นั้นรวมไปถึงบริษัทที่มีชื่อเสียง เช่น Adidas (ADS) Amazon (AMZN) Cisco (CISCO) CME Group Inc (CME) และ Coinbase (COIN)
ข้อสรุปเรื่องความหลากหลายของตลาดของ FBS
จากการสังเกตของผม FBS มีตลาดที่หลากหลายให้เลือก ซึ่งให้ความยืดหยุ่นและโอกาสมากกว่าข้อเสนออื่นๆ ของโบรกเกอร์ เลเวอเรจที่สูง (สูงสุดถึง 3000:1 สำหรับฟอเร็กซ์) ยังช่วยเพิ่มศักยภาพในการเทรดของคุณ ทำให้สามารถขยายเงินทุนได้อย่างรวดเร็ว
การบริการลูกค้า
สิ่งหนึ่งที่ผมชื่นชมจริงๆเกี่ยวกับ FBS คือการบริการลูกค้าที่รวดเร็ว พวกเขามีบริการสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่แชทสดได้ง่าย ทีมงานของพวกเขามักตอบกลับภายในหนึ่งนาที ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์บางรายที่ผมเคยใช้บริการในอดีตซึ่งใช้เวลานานกว่าจะตอบกลับ
นอกจากนี้ FBS ยังมีการสนับสนุนหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย ทำให้คุณสามารถรับความช่วยเหลือในภาษาที่คุณต้องการได้อย่างง่ายดาย นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่แชทสดแล้ว FBS ยังมีช่องทางการติดต่อหลายอย่าง เช่น:
- แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย (Facebook, Instagram)
- แอปพลิเคชันส่งข้อความ (WhatsApp, Telegram)
- ส่วนคำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ความหลากหลายนี้ช่วยให้คุณสามารถหาความช่วยเหลือที่ต้องการได้เสมอผ่านช่องทางที่คุณสะดวก
ข้อสรุปเรื่องการบริการลูกค้าของ FBS
จากประสบการณ์ของผม FBS โดดเด่นในเรื่องการบริการลูกค้าที่ตอบสนองตลอด 24 ชั่วโมง เวลาตอบกลับที่รวดเร็ว และการสนับสนุนหลายภาษา (รวมถึงภาษาไทย) พวกเขาทำให้คุณสามารถขอความช่วยเหลือได้อย่างง่ายดายผ่านหลายแพลตฟอร์ม รวมถึงโซเชียลมีเดีย แอปส่งข้อความ และส่วนคำถามที่พบบ่อย (FAQ)
การวิจัยและการศึกษา
อีกหนึ่งจุดเด่นของ FBS บนเว็บไซต์คือส่วนการศึกษา ซึ่งมีทรัพยากรที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของเทรดเดอร์ทุกระดับ ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงระดับสูง
หากคุณเป็นมือใหม่ มีเส้นทางการเรียนรู้ที่คุณสามารถทำตามได้ ซึ่งครอบคลุมหัวข้อต่างๆ เช่น การแนะนำการเทรดออนไลน์ การเข้าใจสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ เช่น ฟอเร็กซ์ หุ้น และคริปโต รวมถึงการทำความรู้จักกับคำศัพท์ในการเทรดหลักๆ เช่น สวอป การ rollover เลเวอเรจ และมาร์จิ้น หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีความชำนาญมากขึ้น ก็มีวิดีโอเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียนต่างๆ สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง
นอกจากเส้นทางการเรียนรู้การเรียนรู้ที่จัดทำขึ้นเหล่านี้แล้ว FBS ยังมีการจัดสัมมนาและสัมนาออนไลน์ฟรีอยู่บ่อยครั้งซึ่งคุณสามารถเข้าร่วมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังมีวิดีโอสอนฝึกสอนและบล็อกข้อมูล หากคุณชอบการเรียนรู้ด้วยตนเองตามความสะดวก
ข้อสรุปเรื่องส่วนการศึกษาของ FBS
ส่วนการศึกษาของ FBS นั้นโดดเด่น ผมสังเกตว่าโบรกเกอร์ใช้เวลาในการรวบรวมสื่อการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์ระดับสูง ซึ่งทำให้คุณได้รับข้อมูลที่มีค่าไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์ระดับไหนก็ตาม
ข้อสรุปสุดท้ายสำหรับ FBS
ผมพบว่า FBS เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย โดยเฉพาะหากคุณเป็นมือใหม่ที่มองหาประสบการณ์การเทรดที่ไม่ซับซ้อน ด้วยประเภทบัญชีเพียงประเภทเดียว ทำให้กระบวนการเลือกบัญชีง่ายขึ้น คุณไม่ต้องเปรียบเทียบระหว่างประเภทบัญชีเพื่อดูว่าแบบไหนตรงกับกลยุทธ์ของคุณมากที่สุด อย่างไรก็ตาม หากคุณมีประสบการณ์มากขึ้น อาจรู้สึกว่าการขาดความหลากหลายเป็นข้อจำกัด โดยเฉพาะการขาดบัญชี Raw แบบมีค่าคอมมิชชั่นซึ่งมักเป็นที่นิยมสำหรับการเทรดเป็นปริมาณมาก
นอกจากนี้ FBS ยังมีสเปรดที่ไม่น้อยหน้าใครและมีความหลากหลายของตลาดอยู่ในระดับพอใช้ รวมถึงส่วนการศึกษาที่มีคุณภาพและการบริการลูกค้าที่ตอบสนองได้ดี แต่การขาดฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การ copy trade และการกำกับดูแลที่จำกัดอาจเป็นข้อกังวลสำหรับบางคน
โดยรวมแล้ว FBS นั้นพึ่งพาได้หากคุณเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการใช้งานที่ง่าย การเข้าถึงสื่อการเรียนรู้ฟรี และการบริการลูกค้าที่ตอบสนองได้ดี
คำถามที่พบบ่อย
FBS เป็นโบรกเกอร์ที่มีการกำกับดูแลหรือไม่
ใช่ FBS มีการกำกับดูแลโดย Financial Services Commission (FSC) ของเบลิซสำหรับการดำเนินงานในประเทศไทย แม้ว่า FSC จะเป็นหน่วยงานกำกับดูแลระดับ tier-3 แต่ FBS ยังได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำ เช่น Australian Securities and Investments Commission (ASIC) และ Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) สำหรับการดำเนินงานในภูมิภาคอื่น ซึ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับโบรกเกอร์
ข้อดีหลักๆของการใช้ FBS ในประเทศไทยคืออะไร
FBS เสนอประสบการณ์การเทรดที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา โดยมีประเภทบัญชี Standard เพียงประเภทเดียว ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ พวกเขามีสเปรดที่ไม่น้อยหน้าใครเริ่มต้นที่ 0.7 pips ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากหรือถอนเงิน และมีแพลตฟอร์มการเทรดหลากหลาย รวมถึง MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) โบรกเกอร์ยังมีบัญชีที่ไม่มีสวอปสำหรับเทรดเดอร์ทุกคน ไม่ใช่แค่เฉพาะเทรดเดอร์ที่นับถือศาสนาอิสลาม
แพลตฟอร์มการเทรดใดบ้างที่มีใน FBS
FBS รองรับแพลตฟอร์มการเทรดหลายตัว รวมถึง MT4 MT5 และแอป FBS ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง MT4 และ MT5 เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการทำงานอัตโนมัติ ขณะที่แอป FBS ให้ประสบการณ์การเทรดบนมือถือที่กระชับและใช้งานง่าย พร้อมการเชื่อมต่อกับกราฟ TradingView
ค่าธรรมเนียมและสเปรดของ FBS เปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่นแล้วเป็นอย่างไร
FBS มีสเปรดที่ไม่น้อยหน้าใคร เริ่มต้นที่ 0.7 pips สำหรับบัญชี Standard แตกต่างจากโบรกเกอร์หลายแห่ง FBS ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการฝากหรือถอนเงิน ทำให้มีต้นทุนต่ำสำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม FBS ไม่มีบัญชี Raw แบบมีค่าคอมมิชชั่น ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดหากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ทำการเทรดบ่อยครั้งและต้องการสเปรดที่ต่ำลงในกระดานเทรดกับการจ่ายค่าคอมมิชชั่น
FBS มีการสนับสนุนลูกค้าแบบไหนสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย
FBS ให้บริการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเวลาตอบกลับที่รวดเร็ว ผ่านการสนทนาสด อีเมล และแอปพลิเคชันส่งข้อความต่างๆ เช่น WhatsApp และ Telegram นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย ทำให้เทรดเดอร์ท้องถิ่นสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้ง่ายในภาษาที่คุณต้องการ
ทางเลือกแทน FBS
Justin Grossbard
Justin เริ่มต้นเทรดตั้งแต่ปี 1998 และได้นั่งตำแหน่งประธานคณะผู้บริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้งของ CompareForexBrokers เมื่อปี 2004 ในหลายปีนี้ Justin ได้เผยแพร่บทความทางการเงินมากกว่า 100 บทความ บน Forbes, Kiplinger ไปจนถึง Finance Magnates เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีในสาขาวิชาพาณิชยศาสตร์ และมีบทบาทสำคัญในชุมชนฟินเทคมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนและการซื้อขาย ที่เผยแพร่เมื่อปี 2023 อีกด้วย