Pepperstone รีวิว: รีวิวปี 2025
จากการรีวิวของผม Pepperstone เสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่ดีที่สุดหากเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ชั้นนำหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมดูแลโดยหน่วยงาน Tier 1 หรือ ให้บริการทั้ง MT4, MT5 และ TradingView ที่มาพร้อมกับสเปรดและเครื่องมือคัดลอกการเทรดชั้นยอด
นอกจากนี้ ผมยังพบว่า Pepperstone มีการซื้อขายที่เร็วเป็นอันดับต้นๆ ด้วยเหตุนี้ ผมจึงให้คะแนน Pepperstone 98 จาก 100 คะแนน

Written by Justin Grossbard
Updated:
- 67 Forex Brokers reviewed by our expert team (See our top 10 picks)
- 50+ years combined forex trading experience
- 14,000+ hours comparing brokers in the past 12 months
- Structured and in-depth evaluation framework (Our Methodology)
Our broker reviews are reader supported and we may receive payment when you click on a partner site. For more information, visit our About Us page.
บทสรุปเกี่ยวกับ Pepperstone

🏛️ หน่วยงานกำกับ Tier | UK (FCA), AU (ASIC), DE (BaFIN), CY (CySEC) |
🗺️ หน่วยงานกำกับ Tier 2 | UAE (DFSA) |
💱 สเปรด | สเปรดต่ำ (บัญชี Razor/Standard) |
📊 แพลตฟอร์มการเทรด | MT4, MT5, cTrader และ TradingView |
💰 เงินฝากขั้นต่ำ | $0 |
💰 ค่าธรรมเนียมฝากเงิน | $0 |
🛍️ CFDs | FX, คริปโต, อนุพันธ์, หุ้น, ดัชนี |
ทำไมถึงเลือก Pepperstone?
การพิจารณาว่าควรเลือก โบรกเกอร์ forex ใดจึงจะเหมาะสม อาจต้องใช้หลายปัจจัย ในขั้นแรก ผมต้องบอกก่อนว่า Pepperstone นั้นมีความน่าเชื่อถือสูงมาก และยังมีการดำเนินการด้วยความเร็วที่สูงไม่แพ้กัน โดยอยู่ในอันดับที่สามจากการจัดอันดับความเร็วโดยรวมจากโบรกเกอร์ที่ผมทดสอบ
บัญชีทั้งสองประเภทยังเสนอสเปรดที่อยู่ในค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม โดยบัญชี Razor ให้สเปรดที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ในบางคู่ ซึ่งหมายความว่า เมื่อคุณสมัครใช้บริการกับ Pepperstone คุณไม่เพียงแต่จะได้เชื่อต่อกับผู้ให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือ แต่ยังสามารถเทรดด้วยต้นทุนต่ำที่อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม Pepperstone ไม่ได้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทุกประเภท ส่วนการศึกษา แพลตฟอร์มการเทรด และบริการลูกค้าถูกดีไซน์ให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ระดับกลางถึงระดับผู้เชี่ยวชาญ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผมจึงขอแนะนำ Pepperstone หากคุณเคยเทรดฟอเร็กซ์มาก่อน
ข้อดีและข้อเสียของ Pepperstone
- ความเร็วการดำเนินการที่รวดเร็ว
- แพลตฟอร์มการเทรดที่ครอบคลุม
- ชื่อเสียงในระดับนานาชาติที่ดีเยี่ยม
- มีตัวเลือกคริปโตอยู่จำกัด
- การต่อคิวเพื่อรับการบริการลูกค้า
- ส่วนการศึกษาระดับสูง
The overall rating is based on review by our experts
ค่าธรรมเนียม
Pepperstone มีบัญชีให้เลือกสองประเภท คือ บัญชี Standard และบัญชี Razor การเลือกบัญชีใดจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล กลยุทธ์การเทรด และระดับความชำนาญของคุณ
บัญชี Standard มีสเปรดเริ่มต้นที่ 1.0 pips โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน บัญชี Razor มีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips และมีค่าคอมมิชชัน USD $3.50 ต่อด้าน ต่อล็อต
จากการทดสอบของผม พบว่าบัญชีทั้งสองนี้มีสเปรดที่อยู่ในช่วงที่ดีเมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม โดยบัญชี Razor มีสเปรดที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมสำหรับคู่สกุลเงินบางคู่ สำหรับผมเอง บัญชี Razor ตรงกับกลยุทธ์ของผมมากกว่า เนื่องจากผมต้องการสเปรดที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
สเปรดของบัญชี Standard
สำหรับบัญชี Standard ของ Pepperstone การทดสอบของผม พบว่าราคาที่โบรกเกอร์เผยแพร่บนเว็บไซต์ตรงกับผลการทดสอบจริงของผม ซึ่งเป็นการยืนยันความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์
สเปรดที่เผยแพร่โดย Pepperstone (อ้างอิงจากเว็บไซต์ของโบรกเกอร์)
Standard Account Spreads
|
|||||
---|---|---|---|---|---|
![]() |
1.10 | 1.20 | 1.40 | 1.40 | 1.40 |
![]() |
1.10 | 1.20 | 1.30 | 1.30 | 1.30 |
![]() |
1.10 | 1.10 | 1.10 | 1.30 | 1.40 |
![]() |
1.00 | 1.00 | 1.50 | 2.00 | 1.00 |
![]() |
1.20 | 1.40 | 1.50 | 1.60 | 1.50 |
![]() |
1.30 | 1.70 | 2.10 | 1.40 | 1.50 |
![]() |
0.62 | 0.77 | 1.27 | 0.83 | 0.74 |
![]() |
1.00 | 1.20 | 1.00 | 1.00 | 1.10 |
![]() |
1.13 | 1.01 | 1.71 | 1.66 | 1.12 |
![]() |
1.10 | 1.20 | 1.50 | 1.40 | 1.40 |
Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 04/01/2025
ตารางด้านบนแสดงถึงสเปรดเฉลี่ยที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ Pepperstone โดยทั่วไปแล้วสเปรดจะอยู่เหนือ 1 pip โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.12 pips สำหรับ EUR/USD และ 1.47 pips สำหรับ USD/JPY และ 1.69 pips สำหรับ GBP/USD และ 1.22 pips สำหรับ AUD/USD ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าหากเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์สเปรดต่ำรายอื่นๆ
ผลการทดสอบจริงของผม
Standard Spreads Tested By Ross Collins
|
|||||
---|---|---|---|---|---|
![]() |
1.21 | 1.24 | 1.50 | 1.55 | 1.60 |
![]() |
1.19 | 1.28 | 1.42 | 1.51 | 1.56 |
![]() |
0.93 | 1.31 | 1.39 | 1.38 | 1.93 |
![]() |
0.73 | 0.82 | 1.15 | 1.09 | 1.00 |
![]() |
1.06 | 1.00 | 1.86 | 1.55 | 1.75 |
![]() |
1.16 | 1.34 | 1.49 | 1.55 | 1.70 |
![]() |
1.34 | 1.69 | 1.78 | 2.00 | 1.82 |
Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 04/01/2025
เมื่อเปรียบเทียบกับผลการทดสอบจริงของผม พบว่าสเปรดที่เผยแพร่โดย Pepperstone สำหรับคู่ GBP/USD ไม่ได้แตกต่างมากกับค่าจริง และผมสังเกตว่าผลการทดสอบของผมมีสเปรดที่ต่ำกว่าเว็บไซต์ที่เผยแพร่เสียอีก
สเปรดของ Pepperstone สำหรับบัญชี Standard ค่อนข้างต่ำ แต่ต้องยอมรับว่าโบรกเกอร์อื่นๆ เช่น IC Markets ก็เสนออัตราสเปรดที่แข่งขันได้มากกว่า โดยเฉลี่ยที่ 1 pips หรือน้อยกว่า สำหรับคู่หลัก
จากการทดสอบของผม IC Markets เสนอสเปรดที่ดีที่สุดสำหรับ EUR/USD ที่เพียง 0.73 pip ดังนั้น IC Markets อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับบัญชีที่ไม่มีค่าคอมมิชชัน
สเปรดของบัญชี Razor
หากคุณสนใจการเทรดแบบ ECN ซึ่งสเปรดถูกดึงมาจากผู้ให้สภาพคล่องโดยตรงโดยไม่ถูกขยายโดยโบรกเกอร์ บัญชี Razor ของ Pepperstone เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ไม่เพียงแค่สเปรดแค่ต่ำกว่าบัญชี Standard (ซึ่งบางครั้งต่ำถึง 0 pips) แต่ค่าใช้จ่ายหลังรวมค่าคอมมิชชันก็ยังถือว่าถูกกว่าอยู่ดี
สเปรดที่เผยแพร่โดย Pepperstone (อ้างอิงจากเว็บไซต์ของโบรกเกอร์)
RAW Account Spreads
|
|||||
---|---|---|---|---|---|
![]() |
0.10 | 0.20 | 0.50 | 0.20 | 0.71 |
![]() |
0.10 | 0.20 | 0.50 | 0.30 | 0.50 |
![]() |
0.10 | N/A | N/A | N/A | N/A |
Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 04/01/2025
ผมได้ตรวจสอบสเปรดที่เผยแพร่โดยโบรกเกอร์สำหรับคู่สกุลเงินหลักในบัญชี Razor และทั้งหมดถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ตัวอย่างเช่น สเปรดสำหรับ EUR/USD ต่ำเพียง 0.1 pips ขณะที่ USD/JPY อยู่ที่ 0.6 pips
ผลทดสอบจริงของผม
RAW Spread Tested By Ross Collins
|
|||||
---|---|---|---|---|---|
![]() |
0.19 | 0.19 | 0.41 | 0.36 | 0.61 |
![]() |
0.20 | 0.31 | 0.31 | 0.39 | 0.51 |
![]() |
0.19 | 0.23 | 0.27 | 0.24 | 0.24 |
![]() |
0.22 | 0.42 | 0.62 | 0.25 | 0.56 |
![]() |
0.20 | 0.48 | 0.44 | 0.47 | 0.64 |
![]() |
0.46 | 0.85 | 0.96 | 1.04 | 1.01 |
Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 04/01/2025
ผลการทดสอบจากการใช้งาน Pepperstone ในสภาพแวดล้อมจริง พบว่าสเปรดที่เสนอจริงนั้นต่ำกว่าที่ Pepperstone เผยแพร่บนเว็บไซต์เสียอีก ตัวอย่างเช่น สเปรดสำหรับ USD/JPY อยู่ที่เพียง 0.36 pips ซึ่งต่ำกว่าสเปรดที่เผยแพร่ซึ่งอยู่ที่ 0.60 pips
ดังนั้น หากคุณต้องการใช้กลยุทธ์การเทรดแบบเก็งกำไรและการป้องกันความเสี่ยง บัญชี Razor ด้วยโครงสร้างค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำและสเปรดที่แคบอาจเป็นตัวเลือกที่โดดเด่น
ค่าคอมมิชชันบัญชี Razor
นอกเหนือจากค่าสเปรดแล้ว Pepperstone บัญชี Razor ยังมีค่าคอมมิชชันเพิ่มสำหรับแต่ละล็อตการซื้อขาย ในจำนวน USD $3.50 ต่อด้านสำหรับการเทรดล็อตละ 100,000 หน่วย ซึ่งถือว่าอยู่ในช่วงมาตรฐานในอุตสาหกรรมนี้
บัญชีไร้ค่าสวอป
น่าเสียดายที่ Pepperstone ไม่มีบัญชีที่ไร้ค่าสวอป (swap-free account) สำหรับลูกค้าชาวไทย บัญชีนี้มีให้บริการเฉพาะสำหรับลูกค้าในประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
ข้อสรุปเรื่องค่าธรรมเนียมของ Pepperstone
หลังจากที่ได้พิจารณาค่าธรรมเนียมของ Pepperstone แล้ว ผมพบว่า Pepperstone โดดเด่นในด้านต้นทุนการซื้อขายที่น้อยกว่า โดยเฉพาะสำหรับบัญชี Razor ที่มีสเปรดที่ค่อนข้างถูก ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนรายย่อย
ความเร็วในการดำเนินการ
เเมื่อทดสอบความเร็ว ผมพบว่า Pepperstone เข้ามาอยู่ในอันดับที่สาม โดยความเร็วในคำสั่งแบบกำหนดราคา (limit order) อยู่ที่ 77 มิลลิวินาที รองจาก BlackBull Markets (ที่ 72 มิลลิวินาที) ส่วนความเร็วสำหรับคำสั่งแบบราคาตลาด (market order) อยู่ที่ 100 มิลลิวินาที ติดอันดับที่ห้าจากโบรกเกอร์ทั้งหมดที่ผมทดสอบ
การดำเนินการซื้อขายที่รวดเร็วของ Pepperstone ช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงจากความคลาดเคลื่อน และได้รับราคาตามที่คุณสั่ง ดังนั้น Pepperstone จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเทรดเดอร์สายเก็งกำไร (scalpers) และเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดสูง
ผลทดสอบจริงของผมสำหรับความเร็วในการดำเนินการของ Pepperstone
โบรกเกอร์ | ลำดับโดยรวม | ความเร็วคำสั่งแบบกำหนดราคา | อันดับคำสั่งแบบกำหนดราคา | ความเร็วคำสั่งแบบราคาตลาด | อันดับคำสั่งแบบราคาตลาด |
---|---|---|---|---|---|
Blackbull Markets | 1 | 72 | 1 | 90 | 5 |
Fusion Markets | 2 | 79 | 3 | 77 | 1 |
Pepperstone | 3 | 77 | 2 | 100 | 10 |
Octa | 4 | 81 | 4 | 91 | 6 |
OANDA | 5 | 86 | 5 | 84 | 2 |
Pepperstone ยังมีอัตราการเติมเต็มคำสั่งที่น่าประทับใจถึง 99.92% ซึ่งหมายความว่า คุณมีโอกาสน้อยมากที่จะพบกับการปฏิเสธคำสั่ง การเติมเต็มคำสั่งบางส่วน หรือการเสนอราคาใหม่ อัตราการเติมเต็มคำสั่งที่สูงนี้เป็นผลมาจากโมเดล Straight Through Processing (STP) ของ Pepperstone และคุณภาพของผู้ให้บริการสภาพคล่อง (liquidity providers) ของพวกเขา
แพลตฟอร์มการเทรด
โบรกเกอร์ Pepperstone เสนอแพลตฟอร์มทั้งสี่ตัวหลักที่ได้รับความนิยมในตลาด ไม่ว่าจะเป็น MT4, MT5, cTrader หรือ TradingView รวมถึงแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นเองของบริษัท แต่ละแพลตฟอร์มจะตอบโจทย์เทรดเดอร์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นผมมั่นใจว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้จะสามารถตอบโจทย์ของคุณได้เป็นอย่างดี
ทุกแพลตฟอร์มจะให้บริการบัญชีทดลองซื้อขายฟรี (เครดิตสูงสุดถึง $50,000) และไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิกกับโบรกเกอร์ บัญชีทดลองเป็นตัวเลือกที่ดีที่มือใหม่ควรใช้เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับโบรกเกอร์และทดสอบกลยุทธ์การเทรดของคุณ โดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินทุนของคุณ
และคุณสามารถใช้แพลตฟอร์มทั้งหมดผ่านทางเว็บหรือแอปมือถือ iOS และ Android นอกจากนี้ MT4, MT5 และ cTrader ยังสามารถดาวน์โหลดได้บน Windows และ MT4 ยังสามารถใช้งานบน Mac ได้อีกด้วย
MetaTrader4
MetaTrader4 ของ Pepperstone เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเทรด Forex ที่เทรดเดอร์หลายคนนิยมใช้ โดยเฉพาะการซื้อขายอัตโนมัติด้วย Expert Advisors (EAs) เนื่องจากมี EAs ที่ใช้ภาษา MQL4 (ซึ่งเป็นภาษาการเขียนโปรแกรมของ MT4) มากกว่าที่เขียนใน MQL5 ซึ่งใช้สำหรับ MT5
MetaTrader4 เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด โดยข้อดีหลักๆ คือ คุณสามารถหาทรัพยากรสำหรับ MT4 ได้อย่างง่ายดาย และคุณสามารถเปลี่ยนไปใช้โบรกเกอร์อื่นที่มี MT4 ได้อย่างสะดวกสบาย
ฟีเจอร์ของ MT4 รวมถึง:
- อินเทอร์เฟสที่ใช้งานง่าย – การออกแบบที่ใช้งานง่ายของ MT4 ทำให้คุณสามารถใช้ได้อย่างง่ายดายแม้จะเป็นมือใหม่ในวงการ Forex
- เครื่องมือสำหรับนักเทรดอัจฉริยะ – MT4 มีอินดิเคเตอร์ 28 ชนิดและ Expert Advisors (EAs) สำหรับการทำการเทรดอัตโนมัติ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับการได้รับข้อมูลที่ดีกว่าที่อินดิเคเตอร์มาตรฐานเสนอ และยังช่วยให้คุณสร้าง EAs ของคุณเองด้วยภาษา MQL4
- เครื่องมือการวิเคราะห์กราฟ – แพลตฟอร์มนี้มีเครื่องมือวิเคราะห์ 31 ชนิด, อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค 30 ชนิด, และกรอบเวลา 9 ชนิด ซึ่งเหมาะสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- ความยืดหยุ่นในการสั่งซื้อและประเภทการดำเนินการ – MT4 มีประเภทคำสั่งรอดำเนินการ 4 ชนิด (buy-stop, buy-limit, sell-stop, sell-limit) และประเภทการดำเนินการ 3 ชนิด ความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้คุณปรับแต่งการซื้อขายของคุณได้อย่างแม่นยำตามกลยุทธ์ของคุณ
- เครื่องมือปลั๊กอินออนไลน์ – แพลตฟอร์มนี้มีเครื่องมือปลั๊กอินออนไลน์หลายพันรายการ รวมถึง ‘Autochartist’ สำหรับการวิเคราะห์กราฟขั้นสูง
- ชุมชนการเทรด – เนื่องจากเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแรกที่เปิดให้บริการแก่เทรดเดอร์ MT4 จึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก และมีแหล่งข้อมูลออนไลน์มากมายที่สามารถช่วยคุณในการตัดสินใจเทรด
MetaTrader5
MetaTrader 5 ให้บริการที่ทรงพลังด้วยการประมวลผลแบบ 64 บิต ซึ่งแตกต่างจากการประมวลผลแบบ 32 บิตที่พบใน MT4 และ MetaTrader 5 ยังมีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคมากกว่า MT4 และถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งการซื้อขายแบบศูนย์กลาง (เช่น หุ้นที่มีตลาดศูนย์กลาง) และการซื้อขายแบบกระจายศูนย์ (เช่น Forex และคริปโต) ซึ่งแตกต่างจาก MT4 ที่ออกแบบมาเพื่อการซื้อขายแบบกระจายศูนย์เท่านั้น ความสามารถที่เหนือกว่านี้ทำให้ MT5 เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับการใช้เพื่อทำ back testing
แม้ว่าจะไม่ได้รับความนิยมเท่า MT4 แต่ฐานผู้ใช้งานของ MT5 ก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และผมเองก็อยากแนะนำให้ลองใช้ MT5 มากกว่า MT4 เพราะมันเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในอนาคต เนื่องจาก MT5 ยังคงได้รับการสนับสนุนการพัฒนาจาก MetaQuotes อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแตกต่างจาก MT4 ที่กำลังถูกเลิกใช้งาน
- แพลตฟอร์มหลายสินทรัพย์ – MT5 มอบการเข้าถึงตลาดที่หลากหลาย นอกจากสกุลเงินแล้ว คุณยังสามารถเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น ดัชนี สกุลเงินดิจิทัล ETFs พันธบัตร และออปชันได้อีกด้วย
- ปฏิทินเศรษฐกิจ – MT5 มีปฏิทินเศรษฐกิจที่รวมอยู่ในตัวแพลตฟอร์ม ในขณะที่ MT4 จำเป็นต้องใช้ปลั๊กอินเสริมจากเครื่องมือสำหรับนักเทรดอัจฉริยะ (smart trader tools) เพื่อเข้าถึงปฏิทินเศรษฐกิจ
- เครื่องมือการวิเคราะห์กราฟขั้นสูง – MT5 มาพร้อมกับเครื่องมือวิเคราะห์ 44 รายการ, อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค 38 ชนิด และกรอบเวลา 21 แบบ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการใช้กลยุทธ์เทรดแบบเก็งกำไร (scalping)
- ประเภทคำสั่งรอดำเนินการเพิ่มเติม – นอกจากประเภทคำสั่งรอดำเนินการทั้งสี่ประเภทใน MT4 แล้ว MT5 ยังมีประเภทคำสั่งเพิ่มเติมอีกสองประเภท: buy-stop-limit และ sell-stop-limit ซึ่งให้ความยืดหยุ่นมากขึ้นในการดำเนินการซื้อขายของคุณ
- ข้อมูลปริมาณจริง – MT5 ให้ข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้นเกี่ยวกับกิจกรรมและสภาพคล่องของตลาด ต่างจาก MT4 ที่ให้เพียงข้อมูลปริมาณการซื้อขายแบบติ๊ก (tick volumes) เท่านั้น
- ภาษาโปรแกรมที่พัฒนาแล้ว – MQL5 มีการจัดการที่ดีกว่าในแง่ภาษาการเขียนโปรแกรม
- การทดสอบย้อนหลัง – ด้วยการประมวลผลแบบ 64 บิต ทำให้ MT5 สามารถช่วยให้คุณสามารถทำการทดสอบกลยุทธ์การซื้อขายข้ามคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์หลายรายการได้พร้อมกัน ในขณะที่ MT4 จำกัดการทดสอบเพียงคู่ในแต่ละครั้ง
cTrader
cTrader นั้นให้แนวทางที่ทันสมัยและแตกต่างออกไป แพลตฟอร์มนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักเทรดเก็งกำไร (scalpers) เนื่องจากการดำเนินการที่รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น Depth of Market (DoM) ซึ่ง MT4 ไม่มี
โบรกเกอร์ Pepperstone เสนอ cTrader พร้อมกับเครื่องมือการวิเคราะห์กราฟที่สามารถปรับแต่งได้ และผู้ใช้บางคนสังเกตว่าความเร็วในการประมวลผลบนแพลตฟอร์มนี้อาจเร็วขึ้นได้อีก นี่คือข้อดีอื่นๆ ที่ cTrader มอบให้:
- การเข้าถึงความลึกของตลาดข้ามธนาคารโดยตรง – หากคุณต้องการความโปร่งใส cTrader ช่วยให้คุณเห็นคำสั่งซื้อและขายทั้งหมดจากผู้เข้าร่วมรายอื่นได้ทั้งหมด
- อินเทอร์เฟซที่ปรับแต่งได้ – คุณสามารถปรับแต่งแพลตฟอร์มตามความต้องการของคุณ เช่น การตั้งค่ากราฟล่วงหน้าเพื่อความสะดวก หรือการแยกกราฟออกเพื่อสร้างการตั้งค่าหลายจอ
- การทดสอบย้อนหลัง – เช่นเดียวกับ MetaTrader 5 โดย cTrader มีฟังก์ชันการทดสอบย้อนหลังที่ครอบคลุมอย่างมาก
TradingView
โบรกเกอร์ Pepperstone มีตัวเลือกการซื้อขายผ่าน TradingView โดยฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ TradingView ตามมุมมองของผมคือ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่หลากหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือวาดกราฟ 90 ชนิด, ประเภทกราฟ 20 ชนิด และอินดิเคเตอร์ในตัวมากกว่า 400 รายการ ซึ่งทั้งหมดสามารถปรับแต่งได้ตามกรอบเวลาต่างๆ การตั้งค่านี้จะมีประโยชน์มากเมื่อคุณใช้กลยุทธ์การเทรดเก็งกำไร (scalping) เนื่องจากช่วยให้การวิเคราะห์ตลาดง่ายขึ้นและทำให้การตัดสินใจในการซื้อขายแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตอนนี้ TradingView มีผู้ใช้มากกว่า 30 ล้านคน เป็นศูนย์กลางสำหรับเทรดเดอร์ที่คุณสามารถพบปะ เรียนรู้ และติดตามนักลงทุนที่คิดเหมือนกัน โดยพื้นฐานแล้วมันทำหน้าที่เป็นเครือข่ายสังคมที่มุ่งเน้นการลงทุน ช่วยให้คุณได้รับข้อมูลเชิงลึกในการซื้อขายจากเทรดเดอร์ทั้งในประเทศไทยและจากประเทศต่างๆ
จุดอ่อนหลักของ TradingView คือ คุณจะต้องสมัครสมาชิกเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์บางอย่าง แต่ส่วนใหญ่แล้วนักเทรดจะไม่จำเป็นต้องใช้ฟีเจอร์เหล่านี้
แพลตฟอร์มการซื้อขาย Pepperstone
ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักก่อนที่ผมจะเริ่มใช้แพลตฟอร์มที่พัฒนาโดย Pepperstone นี้ เนื่องจากมันเพิ่งเปิดตัวใหม่ อย่างไรก็ตาม ผมพบว่าแพลตฟอร์มนี้ใช้งานง่าย มีตัวเลือกในการวิเคราะห์กราฟและอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่หลากหลายเพื่อการวิเคราะห์ตลาดที่ละเอียด และคุณสามารถค้นหาและปรับแต่งเครื่องมือการซื้อขายของคุณได้อย่างง่ายดาย
ตามที่ Pepperstone กล่าวไว้ แพลตฟอร์มการซื้อขายที่เพิ่งเปิดตัวใหม่นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์การเทรดที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ โดยมีการอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์อย่าง Quick Switch ซึ่งผมพบว่ามีประโยชน์มากสำหรับกาใช้งานกราฟ
แอปพลิเคชันบนมือถือ
โบรกเกอร์ Pepperstone เป็นอีกโบรกเกอร์ที่มีแอพเทรดที่ยอดเยี่ยม รองรับทั้ง MT4, MT5, cTrader, TradingView และแพลตฟอร์มการเทรดที่พัฒนาโดยโบรกเกอร์ Pepperstone เอง ซึ่งทำให้คุณสามารถเทรดได้ทุกที่ทุกเวลา และสามารถติดตามตลาดได้จากทุกที่ที่คุณอยู่
เครื่องมือเทรดอื่นๆ
Pepperstone มีเครื่องมือการ copy trade ที่หลากหลาย ซึ่งแต่ละเครื่องมือมีข้อดีที่เป็นเอกลักษณ์:
- Signal Start – มอบบริการที่เชื่อมต่อคุณกับผู้ให้บริการสัญญาณมืออาชีพมากกว่า 1,000 ราย พร้อมทั้งคุณสมบัติในการติดตามและทำให้แต่ละสัญญาณทำงานอัตโนมัติผ่านบัญชี MT4 ของคุณ ผมพบว่าแต่ละผู้ให้บริการสัญญาณเสนอกลยุทธ์การเทรดที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยให้คุณค้นหากลยุทธ์ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของคุณได้
- DupliTrade – มีชุดกลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติ โดยแต่ละกลยุทธ์มีบันทึกการดำเนินงานอย่างครบถ้วน และบัญชี MetaTrader 4 ของคุณจะเลียนแบบการเทรดแต่ละรายการที่กำหนด ถึงแม้ตัวเลือกของกลยุทธ์จะไม่มีความหลากหลายเท่าใดเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง แต่ผมคิดว่าคุณภาพของกลยุทธ์เหล่านี้สูงกว่า เนื่องจากได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนที่จะเผยแพร่สู่สาธารณะ
- MetaTrader Trading Signals – MetaTrader 4 และ MT5 มีตลาดเปิดที่ให้บริการสัญญาณการเทรดจากเทรดเดอร์มากกว่า 3,500 ราย โดยมีค่าสมัครสมาชิกรายเดือน ที่น่าสนใจว่าคือ เนื่องจากเทรดเดอร์ทั้งหมดใช้ MT4/MT5 คุณจึงสามารถเลียนแบบการเทรดได้อย่างง่ายดาย และคุณยังสามารถดูประวัติการเทรดทั้งหมดของผู้ให้สัญญาณแต่ละรายได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความโปร่งใสในการตัดสินใจของคุณ
- cTrader Copy – ป็นฟีเจอร์การคัดลอกการเทรดในตัวของแพลตฟอร์มที่เสนอกลยุทธ์มากกว่า 100 รายการ ซึ่งแต่ละกลยุทธ์มีความเชี่ยวชาญในสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน การใช้ cTrader Copy จะทำให้แพลตฟอร์มเลียนแบบการเทรดทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ช่วยให้คุณมีโอกาสในการจับคู่ผลลัพธ์ของเทรดเดอร์ที่คุณคัดลอกโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือบริการของบุคคลที่สาม
- Copy Trading by Pepperstone (พัฒนาโดย Pelican Inc) – แอปพลิเคชันการคัดลอกการเทรดนี้เชื่อมต่อกับเครือข่ายของ Pelican ที่มีนัก copy trade หลายพันราย ช่วยให้คุณสามารถลอกและติดตามการเทรดของเทรดเดอร์โดยใช้บัญชี MT4 ของคุณ ผมชอบที่ Copy Trading by Pepperstone ให้คุณควบคุมการจัดการความเสี่ยงได้อย่างเต็มที่ โดยการตั้งค่าขนาดตำแหน่งและขีดจำกัดการขาดทุน ซึ่งจะช่วยปกป้องคุณโดยอัตโนมัติหากเทรดเดอร์ที่คุณเลียนแบบมีผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าที่คาดหวัง
ข้อสรุปเรื่องแพลตฟอร์มการเทรด Pepperstone
โบรกเกอร์ Pepperstone เสนอชุดแพลตฟอร์มการเทรดที่ดีที่สุดในตลาด พร้อมด้วยเครื่องมือการคัดลอกการเทรดที่หลากหลาย แพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีความรู้การเทรดระดับกลางถึงขั้นสูงและสามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อทำการวิเคราะห์ตลาดให้ดีขึ้น
Pepperstone ปลอดภัยไหม?
ใช่ครับ Pepperstone เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย ตั้งแต่เริ่มกิจการในปี 2011 โบรกเกอร์รายนี้ได้สร้างชื่อเสียงที่ดีเยี่ยมและได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล Tier 1 ในหลายเขตอำนาจศาล และเสนอการคุ้มครองยอดเงินติดลบให้กับลูกค้ารายย่อยทุกคน จากปัจจัยเหล่านี้ ผมได้ให้คะแนนความน่าเชื่อถือโดยรวมของโบรกเกอร์นี้ที่ 81 จาก 100 คะแนน

การกำกับดูแล
การดำเนินงานของโบรกเกอร์ Pepperstone ในประเทศไทยอยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของบาฮามาส (SCB) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลระดับ Tier 3 ที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ และนอกเหนือจาก SCB ยังมีหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำอื่นๆ ในเขตอำนาจศาลต่างๆ อีกด้วย
หน่วยงาน Tier 1
- คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนแห่งออสเตรเลีย (ASIC)
- หน่วยงานกำกับดูแลการเงินแห่งสหราชอาณาจักร (FCA)
- สถาบันกำกับดูแลบริการทางการเงินแห่งเยอรมนี (BaFin)
- คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งไซปรัส (CySEC) ในสหภาพยุโรป
หน่วยงาน Tier 2
- หน่วยงานกำกับดูแลบริการทางการเงินดูไบ (DFSA) ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
หน่วยงาน Tier 3
- คณะกรรมการกำกับตลาดทุน (CMA) ในเคนย่า
- สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของบาฮามาส (SCB) สำหรับการดำเนินงานระดับโลกของ Pepperstone (รวมถึงประเทศไทย)ผมยังรู้สึกพอใจที่ได้ทราบว่า Pepperstone เสนอการคุ้มครองยอดเงินติดลบให้กับลูกค้ารายย่อยทุกคน การคุ้มครองยอดเงินติดลบนี้รับประกันว่าคุณจะไม่สูญเสียเงินมากกว่าที่คุณฝากไว้ในบัญชีการเทรดของคุณ
ชื่อเสียง
ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีในการให้บริการในตลาด โบรกเกอร์ได้รับความนิยมในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อตรวจสอบปริมาณการค้นหาทางออนไลน์ ผมพบว่ามีผู้ค้นหา Pepperstone ออนไลน์มากกว่า 90,500 คนต่อเดือน นอกจากนี้ โบรกเกอร์ยังรักษาสถิติด้านการกำกับดูแลที่ดีเยี่ยมตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2010 และปัจจุบันให้บริการลูกค้าถึง 400,000 รายทั่วโลก
คะแนน Trustpilot
โบรกเกอร์ Pepperstone มีคะแนน TrustPilot อยู่ที่ 4.4 จาก 5 คะแนน ผ่านรีวิว 2,106 รายการ คะแนนนี้แสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจและความไว้วางใจจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ข้อสรุปเรื่องความน่าเชื่อถือ
โบรกเกอร์ Pepperstone เป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย ได้รับการสนับสนุนจากการกำกับดูแลที่เข้มงวดจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับ Tier 1 ถึง Tier 3 ในหลายเขตอำนาจศาล นอกจากนี้ยังได้สร้างชื่อเสียงที่ไร้ที่ติมานานกว่าทศวรรษ และได้รับคะแนนความเชื่อถือสูงถึง 81 จาก 100 ในการประเมินของผม
ช่องทางการฝากและถอนเงิน
การฝากและถอนเงินจากบัญชี Pepperstone ของผมเป็นไปโดยราบรื่นและรวดเร็วที่สุดที่ผมเคยพบมา โบรกเกอร์นำเสนอช่องทางการฝากและถอนที่หลากหลาย เช่น Visa/Mastercard, การโอนเงินผ่านธนาคาร, PayPal, Neteller, Skrill, UnionPay, และ USDT
การฝากเงินขั้นต่ำ
Pepperstone ไม่มีข้อกำหนดขั้นต่ำในการฝากเงินเพื่อเปิดบัญชี อย่างไรก็ตาม คุณควรฝากเงินอย่างน้อย $200 เพื่อให้ครอบคลุมข้อกำหนดมาร์จิ้น เมื่อต้องการซื้อขายด้วยเลเวอเรจ
สกุลเงินพื้นฐานของบัญชี
สกุลเงินพื้นฐานที่มีให้เลือก ได้แก่ USD, AUD, NZD, CAD, HKD, SGD, GBP, EUR, JPY, และ CHF โปรดทราบว่าการเลือกสกุลเงินพื้นฐานของคุณมีความสำคัญ เนื่องจากนี่คือสกุลเงินที่ใช้ในการคำนวณค่าคอมมิชชัน เมื่อลงเลือกสกุลเงินแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่คุณสามารถเปิดบัญชีใหม่และเลือกสกุลเงินที่แตกต่างออกไปได้
ค่าธรรมเนียมและทางเลือกการฝากเงิน
Pepperstone ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการฝากเงิน ซึ่งช่วยประหยัดได้มาก โดยเฉพาะเมื่อค่าธรรมเนียมเหล่านี้มักจะถูกเรียกเก็บเป็น USD และอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อแปลงเป็น THB ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ตัวเลือกการชำระเงินของโบรกเกอร์มีความหลากหลาย รวมถึงการโอนเงินผ่านธนาคาร, การชำระเงินด้วย Visa/Mastercard, PayPal, Neteller, Skrill, UnionPay, และ USDT คุณจะไม่มีปัญหาในการเติมเงินเข้าบัญชีของคุณ ซึ่งช่วยให้การจัดการเงินทุนการเทรดของคุณสะดวกสบาย
ค่าธรรมเนียมและทางเลือกการถอนเงิน
โบรกเกอร์ Pepperstone ยกเว้นค่าธรรมเนียมทั้งในการฝากและถอนเงิน สิ่งนี้เป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ เนื่องจากค่าธรรมเนียมเหล่านี้สามารถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและลดความสามารถในการทำกำไรได้
ความสะดวกในการเปิดบัญชี
กระบวนการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจของผม จากการทดสอบโบรกเกอร์มากกว่า 20 ราย ผมพบว่า โบรกเกอร์ Pepperstoneป ส่งมอบประสบการณ์การฝากเงินที่สะดวกรวดเร็ว และผมให้คะแนนเต็ม 15/15 สำหรับความสะดวกในการตั้งค่าบัญชีของพวกเขา
กระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่การสมัครจนถึงการยืนยันตัวตน ใช้เวลาน้อยกว่า 10 นาที คุณจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับเอกสารที่จำเป็น และข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติของโบรกเกอร์อย่างครบถ้วน
ข้อสรุปเรื่องการฝากเงิน Pepperstone
โบรกเกอร์ Pepperstone มีวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย ทำให้การฝากและถอนเงินเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้การที่พวกเขาไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการฝากหรือถอนเงินยังช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในการเทรด
ขอบเขตของตลาด
โบรกเกอร์แห่งนี้นำเสนอ CFD (Contracts for Difference) หลายประเภท สำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย มากกว่า 1,200 รายการ รวมถึง CFD ของหุ้นทั่วโลกกว่า 1,000 ตัว, 62 คู่สกุลเงิน, 25 สินค้าโภคภัณฑ์ (ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร, พลังงาน, โลหะมีค่า), 25 ดัชนี (+3 สกุลเงิน), รวมถึง CFD บน ETFs และสกุลเงินดิจิทัล
ตัวเลือก CFDs และ Leverage
การเทรด CFD (Contracts for Difference) คือการคาดเดาการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดการเงินโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์พื้นฐานจริง การใช้เลเวอเรจในการเทรด CFD ช่วยให้คุณสามารถควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินทุนที่น้อยลง เลเวอเรจสามารถอยู่ในช่วงตั้งแต่ 5:1 ถึง 500:1 ขึ้นอยู่กับประเภทสินทรัพย์ การกำกับดูแล ประเภทบัญชี และสภาพตลาด
การกระจายความเสี่ยงโดยการเทรดสินทรัพย์ทางการเงินที่แตกต่างกันอาจเป็นความคิดที่ดี และ Pepperstone ก็มีตลาดการซื้อขายให้เลือกมากมาย
Forex
ด้วยคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์มากกว่า 60 คู่ (ถ้าให้เป๊ะเลยก็ 62 คู่ ผมถือว่าโบรกเกอร์นี้มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก แม้ว่าโบรกเกอร์บางราย อาจเสนอตัวเลือกมากกว่า 80 คู่ แต่ส่วนใหญ่เป็นคู่ที่มีการซื้อขายน้อย) โดย Pepperstone เสนอคู่ฟอเร็กซ์รวมถึง 6 คู่หลัก เช่น EUR/USD, GBP/USD และ AUD/USD, 7 คู่รอง (โดยปกติจะประกอบด้วยดอลลาร์นิวซีแลนด์), 15 คู่รอง (โดยปกติเป็นการรวมกันของ CAD, AUD, EUR, JPY และ GBP รวมถึงคู่สกุลเงินทางเลือกและฟอเร็กซ์ที่ไม่สามารถส่งมอบได้)
ในฐานะลูกค้าที่ได้รับการคุ้มครองโดย SCB คุณจะสามารถเทรดด้วยเลเวอเรจ 500:1 โดยใช้บัญชี Pepperstone Pro ในขณะที่เลเวอเรจสำหรับลูกค้าปลีกจะถูกจำกัดที่ 200:1 เงื่อนไขเหล่านี้ทำให้โบรกเกอร์แห่งนี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมหากคุณต้องการเริ่มต้นด้วยเงินทุนจำนวนเล็กน้อย และต้องการเพิ่มเงินทุนอย่างรวดเร็ว
สินค้าโภคภัณฑ์
โบรกเกอร์นำเสนอโลหะมีค่า 4 ประเภท ได้แก่ ทองคำ, เงิน, แพลเลเดียม และแพลตตินัม หากคุณทำการเทรดทองคำหรือเงิน คุณสามารถทำการเทรดได้ทั้งกับ USD และสกุลเงินอื่นๆ เช่น EUR, JPY, SGD, AUD และ GBP รวมไปถึงสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เช่น ก๊าซ, อลูมิเนียม, ทองแดง, ตะกั่ว, นิกเกิล และสังกะสี
นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ทางการเกษตร 16 รายการ เช่น วัว, โกโก้, กาแฟ, สัตว์ปีก, และข้าวรวมทั้งซื้อขายในตลาดสปอตที่ไม่มีวันหมดอายุหรือมีการขยายเวลา โดยมีเลเวอเรจสูงสุดถึง 1:200 สำหรับทองคำและเงิน และ 1:50 สำหรับโลหะอ่อน
Pepperstone ใช้ตลาดสปอตที่ไม่มีวันหมดอายุหรือการขยายเวลา โดยมีเลเวอเรจสูงสุดถึง 1:200 สำหรับทองคำและเงิน และ 1:50 สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อน
ดัชนีหุ้น
โบรกเกอร์เสนอตัวเลือกดัชนีหุ้น 23 รายการที่ครอบคลุมตลาดในอเมริกาเหนือ, ยุโรป, เอเชีย และแอฟริกา รวมไปถึง ดัชนี 6 รายการครอบคลุมตลาดสหรัฐฯ เช่น US30 และ NAS100 และอีก 10 รายการที่ครอบคลุมยุโรป เช่น UK100 และ 7 รายการครอบคลุมเอเชีย ออสเตรเลีย และแอฟริกา เช่น AUD200 และ HK50
โดยเลเวอเรจสำหรับการซื้อขายดัชนีโดยทั่วไปตั้งไว้ที่ 1:200 สำหรับดัชนีหลักในประเทศไทย ขณะที่ดัชนีรองมักจะมีเลเวอเรจที่ต่ำกว่าคือ 1:100
ดัชนีสกุลเงินและคริปโต
นอกจากดัชนีหุ้นแล้วยังมีดัชนีสกุลเงิน 3 รายการ (EURX, JPYX และ USDX) และดัชนีคริปโต 3 รายการ (Crypto 10, Crypto 20 และ Crypto 30) โดยมีเลเวอเรจสำหรับดัชนีคือ 1:100
สกุลเงินคริปโต
หากคุณมีความพร้อมในการรับความเสี่ยง คุณสามารถเทรดคริปโตเคอร์เรนซีได้ถึง 28 เหรียญ ซึ่งรวมถึง 9 เหรียญหลัก เช่น Bitcoin, Ethereum และ Litecoin นอกจากนี้ยังรวมถึง 19 รายการรอง เช่น Bitcoin Cash, Cardano, Polkadot และ Ripple โดยเลเวอเรจสำหรับคริปโตเคอร์เรนซีถูกจำกัดที่ 1:10
หุ้นและ ETFs
หุ้นนี้รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ใน ยุโรป สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี ออสเตรเลีย และฮ่องกง โดยมีค่าคอมมิชชันอยู่ในช่วง 0.07% สำหรับ ASX, 0.10% สำหรับหุ้นในสหราชอาณาจักรและยุโรป, และ 0.02 USD สำหรับหุ้นใน NYSE และ NASDAQ กำหนดเลเวอเรจสำหรับ CFD หุ้นอยู่ที่ 1:20 และคุณไม่สามารถใช้ MT4 เพื่อเทรดหุ้นได้
ข้อสรุปเกี่ยวกับขอบเขตของตลาดของ Pepperstone
Pepperstone มี CFDs ให้เลือกมากกว่า 1,200 รายการ และแต่ละรายการมาพร้อมกับเลเวอเรจที่ไม่น้อยหน้าใคร สูงสุดถึง 500:1 ซึ่งทำให้ Pepperstone เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะหากคุณให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นและชื่นชอบการเทรดในหลายประเภทสินทรัพย์
การบริการลูกค้า
Pepperstone ได้รับรางวัลหลายรายการสำหรับการให้บริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม เช่น “Overall Client Satisfaction Award” จาก Investment Trends ในปี 2022 โดยให้การบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันผ่านช่องทางหลายประเภท เช่น แชทสด อีเมล แอปพลิเคชันการส่งข้อความออนไลน์ และช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ
ตามประสบการณ์ของผม แชทสดสามารถเข้าถึงได้ผ่านเว็บไซต์ รวมทั้งการขอรับการสนับสนุนการสนทนาในภาษาไทย คุณจะเริ่มต้นด้วยการพบกับบอทแชทที่ช่วยให้คุณค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ หรือหากต้องการเปลี่ยนไปยังการสนับสนุนจากตัวแทนลูกค้าโดยตรงก็ทำได้ง่ายมาก แม้ว่าในช่วงที่ผมรอในคิวลูกค้า ผมจะต้องรอสักหนึ่งหรือสองนาที แต่ระยะเวลาการรอคอยนั้นถือว่าพอรับได้
นอกจากนี้ Pepperstone ยังมีหมายเลขโทรศัพท์ท้องถิ่นในประเทศไทยเพื่อดูแลข้อกังวลที่เร่งด่วน ทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้รับบริการที่เฉพาะตัวและทำให้การสื่อสารง่ายขึ้น
จุดเด่นของการบริการลูกค้า:
- การสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง
- ช่องทางการสนับสนุนหลากหลาย
- การบริการลูกค้าที่เฉพาะตัว
- ส่วนคำถามที่พบบ่อยที่มีข้อมูลครบถ้วน
ข้อสรุปเรื่องการบริการลูกค้าของ Pepperstone
Pepperstone โดดเด่นในด้านการสนับสนุนลูกค้า โดยมุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือที่รวดเร็วและเฉพาะเจาะจงเมื่อคุณเผชิญกับปัญหาทางเทคนิคหรือการซื้อขาย พวกเขาสามารถติดต่อได้ง่ายผ่านหลายช่องทาง แม้ว่าในบางครั้งคุณอาจต้องรอในคิวเมื่อใช้แชทสดในช่วงเวลาที่มีผู้ใช้จำนวนมากก็ตาม
พอร์ทัลการศึกษาค้นคว้า
Pepperstone มีพอร์ทัลการศึกษาอันน่าประทับใจ ซึ่งประกอบไปด้วยแหล่งข้อมูลการเทรดสำหรับระดับเริ่มต้น ระดับกลาง และระดับสูง เมื่อลองสำรวจเพิ่มเติมในหน้าการศึกษาของพวกเขา ผมพบว่าแหล่งข้อมูลส่วนใหญ่นี้จะมุ่งเน้นไปที่เทรดเดอร์ระดับกลางถึงผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งอาจจะเข้าใจได้ยากสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นใหม่
แต่ข้อดีคือ ทรัพยากรเหล่านี้ทั้งหมดใช้ได้ฟรี ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก หากคุณต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับตลาดโดยไม่ต้องจ่ายค่าคอร์สเรียน นี่คือรายการการศึกษาฟรีที่คุณจะได้พบ:
- ‘The Trade Off’: การสนทนาประจำสัปดาห์ที่สำรวจแนวโน้มและพัฒนาการล่าสุดในตลาดการเงิน พร้อมนำเสนอความคิดเห็นหลายรูปแบบ
- ‘Navigating Markets’: การวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวและเหตุการณ์สำคัญในตลาด เพื่อการทำความเข้าใจกับกลไกลของตลาด
- ‘The Daily Fix’: การอัปเดตและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในตลาดประจำวัน ซึ่งช่วยให้คุณได้ทราบเกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุด
- คู่มือการเทรด: มีบทความและคู่มือหลากหลายบนเว็บไซต์ของ Pepperstone ซึ่งครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ตั้งแต่การวิเคราะห์พื้นฐานไปจนถึงจิตวิทยาการเทรด โดยมุ่งเน้นเพื่อเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับตลาดต่างๆ
- การสัมนาออนไลน์: Pepperstone จัดสัมมนาออนไลน์เป็นประจำ ซึ่งช่วยให้คุณทันต่อแนวโน้มและเหตุการณ์ล่าสุดในตลาด
ข้อสรุปเรื่องพอร์ทัลการศึกษา Pepperstone
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Pepperstone มีส่วนการศึกษาที่ยอดเยี่ยมหรือไม่ พอร์ทัลการเรียนรู้ถูกออกแบบมาอย่างครบถ้วนเพื่อช่วยเหลือเทรดเดอร์ทุกระดับประสบการณ์ แต่เนื้อหาส่วนใหญ่อาจยังเข้าใจได้ยากสำหรับผู้เริ่มต้น เนื่องจากมุ่งเน้นไปที่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มากกว่า
ข้อสรุปสุดท้ายสำหรับ Pepperstone
ท้ายที่สุดแล้ว ผมมองว่า Pepperstone คือโบรกเกอร์ชั้นนำที่น่าเชื่อถือ โดยได้คะแนนสูงถึง 98/100 โบรกเกอร์นี้โดดเด่นในทุกด้าน ทั้งสเปรดที่ต่ำ ค่าคอมมิชชันต่ำ การดำเนินการที่รวดเร็ว ประวัติการกำกับดูแลที่ดีเยี่ยม และแพลตฟอร์มการเทรดและเครื่องมือการ copy trade ที่โบรกเกอร์หลายแห่งไม่มี
กระบวนการสมัครสมาชิกของ Pepperstone ก็ง่ายดาย การฝากและถอนเงินก็เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งทำให้ผมมีความประทับมาก นอกจากนี้ ผมยังพบว่าช่วงของตลาดที่ Pepperstone เสนอมีความหลากหลาย ทำให้มีความยืดหยุ่นของการเทรดสินทรัพย์หลายประเภท และมีการใช้เลเวอเรจที่ไม่น้อยหน้าใครสำหรับทุกประเภทสินทรัพย์
ถึงแม้ว่าหนึ่งในสิ่งที่สามารถพัฒนาได้อีกคือส่วนการศึกษาของ Pepperstone ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มากกว่า แต่โดยรวมแล้วยังถือว่าดีเมื่อเปรียบเทียบกับที่อื่นๆ มีทั้งบทความและบล็อก และยังมีการจัดสัมมนาออนไลน์เป็นประจำอีกด้วย
คำถามที่พบบ่อย
Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลหรือไม่?
ใช่ครับ Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลอย่างดี โดยมีการควบคุมจากหน่วยงานระดับสูงหลายแห่ง รวมถึงคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนของออสเตรเลีย (ASIC) ในออสเตรเลีย
นอกจากนี้พวกเขายังได้รับการดูแลจากหน่วยงานควบคุมทางการเงิน (FCA) ในสหราชอาณาจักร สำหรับเทรดเดอร์ในไทย การดำเนินงานอยู่ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการหลักทรัพย์และการแลกเปลี่ยนของบาฮามาส (SCB) ซึ่งทำให้มั่นใจได้ในความปลอดภัยของสภาพแวดล้อมการเทรด
ข้อดีหลักๆ ของการใช้ Pepperstone ในประเทศไทยคืออะไร?
Pepperstone มีข้อดีหลัก เช่น สเปรดที่ไม่น้อยหน้าใคร ความเร็วในการดำเนินการ และการสนับสนุนลูกค้าหลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงภาษาไทยด้วย คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้มันเหมาะสมโดยเฉพาะหากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ที่มีต้นทุนต่ำและเชื่อถือได้
แพลตฟอร์มการเทรดใดบ้างที่มีให้บริการกับ Pepperstone?
Pepperstone มีแพลตฟอร์มที่หลากหลายให้บริการ รวมถึง MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5), cTrader, TradingView และแพลตฟอร์มที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง ซึ่งทั้งหมดนี้รองรับฟีเจอร์จำนวนมาก
ค่าธรรมเนียมและสเปรดของ Pepperstone เปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ แล้วเป็นอย่างไร?
ถึงแม้ว่าโบรกเกอร์อื่นจะมีชื่อเสียงด้านค่าธรรมเนียมที่แข่งขันได้ แต่จากการทดลองเทรดของผม Pepperstone ก็มีจุดเด่นในด้านค่าธรรมเนียมที่ไม่น้อยหน้าใคร โดยเฉพาะกับบัญชี Razor ซึ่งมีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips และมีค่าคอมมิชชัน $3.50 ต่อข้างต่อล็อต บัญชี Standard มีสเปรดเริ่มต้นที่ 1 pip โดยไม่มีค่าคอมมิชชันเพิ่มเติม ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่ากว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ
Pepperstone มีบริการลูกค้าแบบไหนสำหรับเทรดเดอร์ในไทย?
Pepperstone มีบริการลูกค้าแบบครบวงจร ซึ่งพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงแชทสด อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ท้องถิ่นในประเทศไทย นี่จะช่วยให้คุณได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว แม้จะมีเวลาที่ต้องรอบ้างในช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งานเยอะก็ตาม
ทางเลือกแทน Pepperstone
หากคุณมองหาทางเลือกแทนการใช้งาน pepperstone คุณอาจมีตัวเลือกหลายแห่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับสไตล์การลงทุนและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ลองดูตัวอย่างด้านล่างนี้ สำหรับตัวเลือกเพิ่มเติม
Justin Grossbard
Justin เริ่มต้นเทรดตั้งแต่ปี 1998 และได้นั่งตำแหน่งประธานคณะผู้บริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้งของ CompareForexBrokers เมื่อปี 2004 ในหลายปีนี้ Justin ได้เผยแพร่บทความทางการเงินมากกว่า 100 บทความ บน Forbes, Kiplinger ไปจนถึง Finance Magnates เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีในสาขาวิชาพาณิชยศาสตร์ และมีบทบาทสำคัญในชุมชนฟินเทคมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนและการซื้อขาย ที่เผยแพร่เมื่อปี 2023 อีกด้วย