บทสรุปเกี่ยวกับ Tickmill

🗺️ หน่วยงานกำกับดูแล UK, ยุโรป, แอฟริกาใต้, มาเลเซีย และเซเชลส์
💰 สเปรด สเปรดต่ำ
📊 แพลตฟอร์ม MT4
💰 เงินฝากขั้นต่ำ $100
💰 ค่าธรรมเนียมฝาก/ถอน $0
🛍️ เครื่องมือเทรด FX, CFDs, พันธบัตร และโลหะ
💳 ฝากผ่านบัตรเครดิต มี

ทำไมถึงเลือก Tickmill

Tickmill มีค่าคอมมิชชันและสเปรดที่ต่ำในบัญชีประเภท Raw ซึ่งทำให้ Tickmill มีความได้เปรียบในการแข่งขัน และมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ รวมถึงการสนับสนุนลูกค้าเป็นภาษาไทย ที่มาพร้อมกับความน่าเชื่อถือในระดับที่ดี และวิธีฝากเงินที่หลากหลายโดยไม่มีค่าธรรมเนียม

แม้ว่าโดยรวม Tickmill จะเป็นโบรกเกอร์ที่ดี แต่พวกเขาก็ยังก็มีจุดอ่อนบางประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สเปรดของบัญชี Standard ที่สูง และไม่มีบัญชีสำหรับเทรดเดอร์ที่เทรดในปริมาณสูง และฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่ให้บริการเฉพาะวันจันทร์ถึงวันศุกร์เท่านั้น

ข้อดีและข้อเสียของ Tickmill

ข้อดี
  • ค่าธรรมเนียมต่ำในบัญชี RAW
  • ความเร็วในการดำเนินการที่รวดเร็ว
  • มีการกำกับดูแลที่ดี
  • เลเวอเรจสูงสุดถึง 1000:1 บน MT5
  • ทรัพยากรการศึกษาอย่างครบถ้วน
ข้อเสีย
  • สเปรดสูงในบัญชี Classic
  • แพลตฟอร์มการเทรดมีให้เลือกจำกัด
  • การบริการลูกค้ามีเฉพาะวันจันทร์ถึงวันศุกร์

เยี่ยมชม Tickmill


Our Rating

The overall rating is based on review by our experts

77
Trading Costs
10 / 10
Trading Experience
7 / 10
Trading Platform
7 / 10
Trust
6 / 10
Range of Markets
8 / 10
Customer Service
7 / 10

บัญชีและค่าธรรมเนียมของ Tickmill

ในฐานะเทรดเดอร์ในประเทศไทย คุณสามารถเลือกใช้บัญชี Classic หรือ Raw จาก Tickmill ได้ ซึ่งการเลือกบัญชีใช้งานหรือโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณนั้นขึ้นอยู่กับประสบการณ์ สไตล์ และกลยุทธ์การเทรดของคุณ

  • บัญชี Classic – สเปรดเริ่มต้นที่ 1.6 pips โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน
  • บัญชี Raw – สเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips โดยมีค่าคอมมิชชัน $3 ต่อฝั่ง

บัญชีทั้งสองประเภทเสนอสิ่งต่างๆดังต่อไปนี้:

  • การฝากเงินขั้นต่ำที่ $100
  • ขนาดคำสั่งขั้นต่ำที่ 0.01 (ไมโครล็อต)
  • เลเวอเรจสูงสุดถึง 1000:1
  • อนุญาตให้ใช้กลยุทธ์ได้ทุกอย่าง เช่น hedging scalping arbitrage และ การใช้ Expert Advisors (EAs)
  • ตัวเลือกบัญชีอิสลามที่ปลอดค่าสวอป

ใในฐานะเทรดเดอร์รายย่อย คุณสามารถสร้างบัญชีได้สามบัญชีสำหรับ MT4 และ MT5 ซึ่งจะสะดวกหากคุณต้องการบัญชีในสกุลเงินพื้นฐานที่แตกต่างกัน เช่น USD, EUR และ GBP เนื่องจากแต่ละบัญชีสามารถมีสกุลเงินได้เพียงหนึ่งสกุลเท่านั้น

หากคุณต้องการเปิดบัญชีเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่บริการลูกค้าของ Tickmill แจ้งผมว่า คุณสามารถขอเพิ่มได้หากจำเป็น คุณสามารถส่งคำขอไปยังอีเมลบริการลูกค้าของพวกเขา และจะได้รับการดำเนินการภายใน 24 ชั่วโมง

สเปรดบัญชี Classic

บัญชี Classic คือบัญชีมาตรฐานของ Tickmill ที่เรียกเก็บเฉพาะสเปรด (โดยไม่มีค่าคอมมิชชันเพิ่มเติม) แต่เนื่องจากไม่มีค่าคอมมิชชัน สเปรดจึงจะสูงกว่าบัญชี RAW

ผมคิดว่าบัญชี Classic เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ เพราะโครงสร้างค่าธรรมเนียมเข้าใจง่ายและคำนวณได้ง่าย บัญชีประเภทนี้จะทำงานได้ดี หากคุณเทรดไม่บ่อยนัก เนื่องจากสเปรดที่สูงกว่านิดหน่อยจะไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรโดยรวมของคุณมากนัก

Standard Account Spreads
1.60 1.60 1.60 1.60 1.60
1.10 1.20 1.40 1.40 1.40
0.62 0.77 1.27 0.83 0.74
1.10 1.20 1.30 1.30 1.30
1.00 1.20 1.00 1.00 1.10
1.00 1.00 1.50 2.00 1.00
1.00 1.40 1.60 1.20 1.10
1.60 1.60 1.80 1.90 1.50
1.32 1.95 1.37 1.70 1.40

Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 04/01/2025

น่าเสียดายที่ TickMill ไม่ได้เผยแพร่สเปรดขั้นต่ำหรือค่าเฉลี่ยอื่น นอกจากระบุว่ามีสเปรดเริ่มต้นที่ 1.6 pips หากข้อมูลนี้ถูกต้อง เราสามารถสันนิษฐานว่าสเปรดที่เผยแพร่นั้นสูงกว่าเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่น และค่าธรรมเนียมของ Tickmill สำหรับบัญชี Classic ก็สูงกว่าคู่แข่ง

ตัวอย่างเช่น สเปรดของ IC Markets สำหรับ AUD/USD อยู่ที่เพียง 0.77 pips ในขณะที่ Pepperstone อยู่ที่ 1.22 pips อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ใช่เทรดเดอร์ที่ทำการเทรดบ่อย ความแตกต่างนี้จะไม่ส่งผลกระทบมากนัก เนื่องจากคุณจะไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมนอกจากสเปรด

สเปรดบัญชี Raw

บัญชี Raw มีสเปรดที่ต่ำกว่าบัญชี Standard เนื่องจากมีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชัน แม้ว่าจะมีค่าคอมมิชชันเพิ่มเติม แต่สเปรดที่ต่ำ หมายความว่าบัญชีประเภทนี้มีต้นทุนโดยรวมที่ต่ำกว่า จึงเป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ เทรดเดอร์ระยะสั้น และเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดสูง

Raw Account Spreads
0.10 0.10 0.20 0.40 0.10
0.10 0.30 0.40 0.20 0.20
0.02 0.30 0.25 0.27 0.03
0.06 0.23 0.20 0.49 0.27
0.14 0.45 0.66 0.75 0.43
0.10 0.20 0.30 0.30 0.20
0.00 0.10 0.30 0.30 0.20
0.52 0.70 1.13 0.86 0.80
0.10 0.10 1.30 0.70 0.90

Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 04/01/2025

อ้างอิงจากกราฟบนเว็บไซต์ของ Tickmill และข้อมูบสเปรดเฉลี่ยที่โบรกเกอร์อื่นเผยแพร่บนเว็บไซต์ของพวกเขา ผมสังเกตว่า Tickmill มีการปัดเศษสเปรด ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่สเปรดของพวกเขาจะสามารถเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ได้ อย่างไรก็ตาม ผมชื่นชอบโบรกเกอร์อย่าง IC Markets ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสเปรดเฉลี่ยที่ชัดเจนและสู้กับเจ้าอื่นได้มากกว่า

ผมได้ทำการทดสอบสเปรดเพื่อเปรียบเทียบสเปรดที่ Tickmill เผยแพร่กับผลทดสอบจริงของผม ซึ่งเป็นไปตามที่คาดไว้ ผลลัพธ์ไม่ตรงกันเป๊ะๆ เนื่องจากโบรกเกอร์มักเผยแพร่เรทที่ดีที่สุดเพื่อดึงดูดนักเทรดรายมือใหม่นั่นเอง

จากการทดสอบของผม สามารถกล่าวได้ว่าสเปรดของ Tickmill สำหรับบัญชี Raw โดยรวมแล้วถือว่าไม่น้อยหน้าใคร อย่างไรก็ตาม ผมสังเกตว่าพวกเขามีสเปรดที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมในบางคู่ เช่น GBP/USD และ USD/JPY

RAW Spreads Tested By Ross Collins
0.15 0.37 0.59 0.67 0.50
0.19 0.19 0.41 0.36 0.61
0.19 0.23 0.27 0.24 0.24
0.20 0.48 0.44 0.47 0.64
0.20 0.31 0.31 0.39 0.51
0.22 0.23 0.17 0.27 0.16
0.46 0.85 0.96 1.04 1.01

Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 04/01/2025

จากผลการทดสอบสเปรดบนบัญชีประเภท Raw ของ Tickmill กับโบรกเกอร์อื่นและค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ผมกลับพบว่าโบรกเกอร์อย่าง IC Markets Eightcap และ Pepperstone มักจะมีข้อเสนอที่ดีกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับคู่สกุลเงินที่คุณเทรดด้วย

ค่าคอมมิชชันบัญชี RAW

ในฐานะเทรดเดอร์ในประเทศไทย ค่าคอมมิชชันจะอยู่ที่ $3.00 สำหรับการเทรดแต่ละล็อตในบัญชี Raw ซึ่งดีกว่าข้อเสนอจากโบรกเกอร์หลักอื่นๆ อย่าง Pepperstone Eightcap และ IC Markets โปรดดูตารางเปรียบเทียบด้านล่างนี้

ค่าคอมมิชชั่น
Tickmill$3.00
Pepperstone$3.50
Eightcap$3.50
Axi$3.50
IC Markets$3.50
ThinkMarkets$3.50
Dukascopy$3.50

ด้วยสเปรดและค่าคอมมิชชันที่ต่ำ ผมพบว่าบัญชี Raw ของ Tickmill เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ทำการเทรดบ่อยและซื้อขายในปริมาณสูง ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ว่านี่มันเหนือกว่าความคาดหวังของผมเสียอีก และนี่ถือเป็นจุดเด่นของ Tickmill

โดยรวมแล้ว หากคุณต้องการลดต้นทุนเมื่อต้องซื้อขายในปริมาณสูง บัญชี Raw ของโบรกเกอร์นี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดี

บัญชีปลอดค่าสวอป

การพิจารณาว่า โบรกเกอร์ forex ดีหรือไม่ ปัจจัยเรื่องความพร้อมของบัญชีปลอดค่าสวอปก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกยิบยกมาพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง ซึ่ง Tickmill เองก็มีบัญชีปลอดค่าสวอป (อิสลาม) สำหรับเทรดเดอร์ที่ปฏิบัติตามกฎหมายชารีอะห์ ซึ่งจะทำให้คุณไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมข้ามคืน โบรกเกอร์อนุญาตให้คุณเลือกได้ระหว่างบัญชี Standard และ Raw ขณะที่บางโบรกเกอร์จำกัดบัญชีปลอดค่าสวอปเฉพาะบัญชี Standard เท่านั้น แต่คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการจัดการ ซึ่งจะเริ่มต้นเมื่อคุณเปิดตำแหน่งต่อเนื่องตั้งแต่ 3 ถึง 6 วัน และในแต่ละวันหลังจากเวลาที่กำหนด

เมื่อผมสอบถามกับเจ้าหน้าที่ของพวกเขา ผมได้รับข้อมูลว่าคุณสามารถขอบัญชีปลอดค่าสวอปได้โดยการส่งอีเมลไปยังฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ Tickmill และอาจต้องมีหลักฐานการปฏิบัติตามศาสนา เมื่อได้รับการอนุมัติ คุณสามารถเทรดโดยไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยสำหรับการเปิดตำแหน่งข้ามคืน

ความเร็วในการดำเนินการ

เว็บไซต์ของ Tickmill ระบุไว้ว่าเวลาการดำเนินการเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.20 วินาที ซึ่งเป็นไปได้ด้วยโมเดลการดำเนินการแบบไฮบริดของโบรกเกอร์ ที่รวมทั้งการสร้างตลาดและการประมวลผลตรง (STP) สิ่งนี้ทำให้การเทรดถูกดำเนินการเกือบจะทันที โดยไม่มีการรีโควต ผลที่ได้คือคุณจะได้รับประโยชน์จากสเปรดที่ไม่น้อยหน้าใครของ Tickmill ซึ่งเสนออัตราที่ดีที่สุดในตลาด โดยเฉพาะสำหรับบัญชี Raw

ข้อสรุปเรื่องค่าธรรมเนียมของ Tickmill

ในความเห็นของผม ค่าธรรมเนียมของ Tickmill สำหรับบัญชี Raw นั้นไม่น้อยหน้าใคร แต่โดยรวมแล้ว IC Markets ยังอยู่ในอันดับที่ดีกว่า แม้ว่าจะมีค่าคอมมิชชันที่สูงกว่าบ้างเล็กน้อย ดังนั้น หากคุณต้อการใช้งาน Tickmill ผมขอแนะนำให้เลือกบัญชี Raw แทนบัญชี Classic

แพลตฟอร์มการซื้อขาย

สำหรับแพลตฟอร์มของ Tickmill จะรองรับเพียง MetaTrader 4, MetaTrader 5 และแอพการซื้อขายบนมือถือที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเขาอย่าง Tickmill Trader ซึ่งการที่โบรกเกอร์มีตัวเลือกจำกัดเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกในปัจจุบัน โดยโบรกเกอร์บางราย เช่น Axi, Admirals และ Tradersway ก็จำกัดแพลตฟอร์มให้มีเพียง MetaTrader เท่านั้น

MetaTrader เสนอการใช้งานทั้งแบบพื้นฐานและมืออาชีพอย่างครบถ้วน แต่แพลตฟอร์มที่เป็นคู่แข่งอย่าง cTrader และ TradingView ก็มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจซึ่งตอบโจทย์การใช้งานของเทรดเดอร์ในแต่ละราย

  • MetaTrader4 – MT4 เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่เก่าแก่และได้รับความนิยมมากที่สุด เทรดเดอร์หลายคนชื่นชอบ MT4 เพราะใช้งานง่ายและสามารถใช้ Expert Advisors (EAs) ในการทำให้การเทรดเป็นแบบอัตโนมัติได้
  • MetaTrader5 – เวอร์ชันที่อัปเกรดของ MT4 คือ MT5 ซึ่งมีกรอบเวลา เครื่องมือ และฟีเจอร์มากขึ้น แม้ว่า MT5 จะมีความสามารถเพิ่มเติม แต่ภาษาโปรแกรม MQL5 กลับเข้าใจได้ยากกว่า MQL4 (ของ MT4) อยู่พอสมควร
  • Tickmill Trader – แอพมือถือที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Tickmill ซึ่งมีกราฟและเครื่องมือสำหรับการเทรด

MetaTrader4

MetaTrader 4 เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก แม้ว่าความนิยมส่วนหนึ่งจะมาจากการที่เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้ใช้งานฟรีตั้งแต่ปี 2005 แต่จากประสบการณ์ของผม MT4 มีฟีเจอร์ขั้นพื้นฐานที่ครบถ้วนสำหรับการเทรดฟอเร็กซ์ ด้วย MT4 คุณจะได้กราฟและอินดิเคเตอร์ที่สำคัญที่สุด พร้อมกับฟีเจอร์การทำงานอัตโนมัติและการปรับแต่งที่ดี

หากคุณชอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค MetaTrader 4 มีอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค 30 ตัว เครื่องมือวิเคราะห์ 23 ตัว และกรอบเวลา 9 แบบสำหรับการเทรด CFDs ในฟอเร็กซ์ ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ พันธบัตร และคริปโตเคอเรนซี ถึงแม้ว่าจะไม่มากเท่าที่คุณจะได้จากแพลตฟอร์มใหม่ๆ แต่ตัวอินดิเคเตอร์ที่สำคัญ เช่น Moving Averages, MACD, RSI และ Bollinger Bands ก็มีอยู่ครบ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้เครื่องมือวาดกราฟ เช่น เส้นแนวโน้ม เส้นแนวนอน และเส้นแนวตั้งได้เช่นกัน

MT4 ของ Tickmill ทำให้คุณสามารถใช้ Expert Advisors (EAs) ในการทำให้การเทรดเป็นแบบอัตโนมัติ และ trading robot ก็จะทำทุกอย่างแทนคุณ นอกจากการทำงานอัตโนมัติแล้ว คุณยังสามารถใช้ EAs ในการสร้างอินดิเคเตอร์แบบกำหนดเองได้ด้วย MQL5 หรือจะซื้อจากตลาด MQL4 ก็ได้เช่นกัน ซึ่งผมพบว่าสิ่งนี้มีประโยชน์มาก

ด้วยอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย และชุมชนขนาดใหญ่ของ MT4 ยังทำให้มีวิดีโอแนะนำและคู่มือการใช้งานที่ครอบคลุมและหลากหลายในตลาด ซึ่งช่วยให้คุณเรียนรู้แพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

MetaTrader5

MetaTrader 5 เป็นรุ่นต่อจาก MT4 ที่พัฒนาโดย MetaQuotes และเปิดตัวในปี 2012 โดยสรุปแล้ว MT5 เป็นผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกับ MT4 แต่มีฟีเจอร์มากขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมคิดว่า MT5 เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ข้อดีของ MT5 เมื่อเปรียบเทียบกับ MT4 ได้แก่:

    1. สามารถเทรด CFD หุ้นได้
    2. มีอินดิเคเตอร์และกราฟมากขึ้น
    3. มีความทันสมัยมากกว่า เนื่องจาก MetaQuotes ทุ่มทุนมากขึ้นกับ MT5 เมื่อเปรียบเทียบกับ MT4
    4. รองรับการประมวลผล 64 บิต ทำให้เหมาะกว่าสำหรับการทดสอบย้อนหลัง

หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ชอบการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือการเทรดโดยใช้กราฟ MT5 คือแพลตฟอร์มที่ควรเลือกใช้งาน แพลตฟอร์มนี้มีอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค 38 ตัว, เครื่องมือวิเคราะห์ 44 ตัว, กรอบเวลา 21 แบบ และกราฟที่ไม่จำกัด พร้อมการพัฒนาที่ต่อยอดมาจากความสามารถในการตีกราฟของ MT4 โดยการเพิ่มประเภทกราฟเช่น Renko และ Range bars ถ้าคุณเป็นเทรดเดอร์ประสบการณ์สูง ผมคิดว่าเครื่องมือเพิ่มเติมเหล่านี้จะมีประโยชน์อย่างมาก

จากประสบการณ์ของผมเมื่อทำการ scalping คุณจะสามารถสลับระหว่างกรอบเวลาได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้นกับ MT5 เพราะแพลตฟอร์มนี้มีตัวเลือกกรอบเวลาที่ต่ำกว่า (นาทีที่ 1 ถึง 6) เมื่อเปรียบเทียบกับ MT4 (นาทีที่ 1 และ 5 เท่านั้น)

นอกจากนี้ MT5 ยังมีเครื่องมือ Depth of Market ที่จะแสดงจำนวนคำสั่งซื้อและขายที่ราคาต่างๆ ซึ่งช่วยให้คุณประเมินอารมณ์ตลาดได้ ผมใช้ฟีเจอร์นี้ในการประเมินอารมณ์ตลาดและกำหนดจุดเข้าและออก พร้อมใช้งานปฏิทินเศรษฐกิจที่สามารถติดตามเหตุการณ์ที่สำคัญ ซึ่งใน MT4 จะต้องใช้เป็นส่วนเสริม

ในแง่ของความคล้ายคลึงระหว่าง MT4 และ MT5 ผมพบว่า MT5 อนุญาตให้คุณใช้ Expert Advisors สำหรับการเทรดอัตโนมัติ และคุณสามารถพัฒนาอินดิเคเตอร์แบบกำหนดค่าเองได้ อย่างไรก็ตาม อินดิเคเตอร์เหล่านี้จะต้องถูกเขียนใน MQL5 ไม่ใช่ MQL4 เนื่องจากภาษาโปรแกรมทั้งสองแบบนี้ไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้

ด้วยความสามารถในการใช้งานที่สูงกว่า ทำให้ในปัจจุบัน MT5 กำลังค่อยๆ ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

MT5ฟีเจอร์MT4
38อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค30
44อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคแบบกราฟฟิค31
21กรอบเวลา9
6ประเภทคำสั่งรอดำเนินการ4
มีเวอร์ชั่นแอป (Andoid, iOS)มี
ไม่มีDepth of Market ระดับ 2มี
มีการเทรดสัญญาณมี
ด้วย (มี MQL4)การเทรดอัตโนมัติ (Expert Advisors)มี (ด้วย MQL5)
ไม่มี (ต้องใช้ส่วนเสริม)ปฏิทินเศรษฐกิจในตัวมี
ไม่มีการเติมเต็มคำสั่งบางส่วนมี
ไม่มีการเทรดผ่านกระดานเทรด (เช่น การเทรดหุ้น)มี
32 bitระบบ64 Bit

Tickmill Trader

นอกเหนือจากแพลตฟอร์ม MetaTrader แล้ว ยังมี Tickmill Trader ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบนมือถือที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Tickmill จากที่สังเกต Tickmill Trader มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ดีกว่า เนื่องจากคุณสามารถล็อกอินด้วยวิธีการตรวจสอบอัตลักษณ์ เช่น การจดจำใบหน้าบนอุปกรณ์ iOS หรือการสแกนลายนิ้วมือบน Android และ หากคุณให้ความสำคัญกับการมีชั้นการป้องกันเพิ่มเติมเมื่อเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มที่ใช้รหัสผ่านแบบดั้งเดิม Tickmill Trader ก็มีให้บริการเช่นกัน

ในปัจจุบัน Tickmill Trader รองรับเฉพาะการซื้อขายฟอเร็กซ์และผลิตภัณฑ์ CFD จึงถือว่ามีข้อจำกัดในการใช้งานที่มากกว่า MetaTrader (เทรดหุ้นได้ด้วย) ดังนั้น นี่อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้หลายคนต้องทบทวนก็เลือกใช้งานจริง โดยเฉพาะ หากคุณต้องการกระจายพอร์ตการลงทุนของคุณ

นอกจากนี้ MetaTrader ยังมีเครื่องมือกราฟขั้นสูงและความสามารถของการซื้อขายอัตโนมัติ ในทางกลับกัน หากคุณต้องเดินทางตลอดเวลา คุณอาจต้องการแอปที่กระทัดรัดและใช้งานที่ไหนก็ได้ Tickmill Trader มีฟีเจอร์น้อยกว่า แต่ก็มีการเสนอราคาแบบเรียลไทม์ เครื่องมือกราฟ และการดำเนินการเทรดอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้มีในแอป ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำการตัดสินใจเทรดอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่ควรสังเกตคือ ค่าคอมมิชชันบน Tickmill Trader คือ $3.5 ต่อล็อตต่อฝั่ง หากคุณเทรดในประเทศไทย และเพียง $3.0 บน MT4/MT5 ความแตกต่างนี้อาจไม่มากนัก เว้นแต่ว่าคุณจะเทรดมากกว่าหนึ่งล็อตมาตรฐาน

เครื่องมือเทรดอื่นๆ

นอกจากนี้ ผมยังอยากแนะนำเครื่องมือการเทรดเพิ่มเติมของ Tickmill ซึ่งผมคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเส้นทางการเทรดของคุณเช่นกัน

Capitalise.ai

Tickmill มีการร่วมมือกับ Capitalise.ai ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการทำงานอัตโนมัติที่ช่วยให้คุณสามารถทำการเทรดของคุณโดยอัตโนมัติแบบไม่ต้องใช้ภาษาโปรแกรม ไม่ต้องเขียนโค้ด ในขณะที่การใช้ EAs กับ MT4/MT5 คุณจะต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ MQL4/MQL5 เพื่อสร้าง EA แบบปรับแต่งเอง

จากประสบการณ์ของผมในการใช้ Capitalise.ai ร่วมกับ Tickmill เป็นครั้งแรก ขั้นตอนการใช้งานนั้นง่ายมาก แพลตฟอร์มนี้รองรับเฉพาะ MT5 ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องสร้างบัญชีเทรด Tickmill MT5 (หากคุณยังไม่มี) เมื่อทำเสร็จแล้ว ให้ลงทะเบียนกับ Capitalise.ai ฟรี และกรอกข้อมูลล็อกอินบัญชี Tickmill MT5 ของคุณเพื่อเชื่อมต่อบัญชี

หลังจากนั้น คุณจึงสามารถใช้แพลตฟอร์มในการสร้างกลยุทธ์การเข้าและออกจากตำแหน่งการซื้อขายได้ และคุณยังมีตัวเลือกในการให้ AI รันกลยุทธ์ของคุณถึง 3 แบบด้วยกัน: ทำการทดสอบย้อนกลับ การจำลอง และ ทำงานจริง โดยการทำการทดสอบย้อนกลับ (backtest) ซึ่งคุณจะสามารถทดสอบกลยุทธ์ด้วยข้อมูลในอดีตด้วยการจำลองที่ใช้ข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ในการทดสอบ

เมื่อแน่ใจแล้ว คุณสามารถใช้กลยุทธ์นั้นๆ ในการซื้อขายจริง และ Capitalise.ai ก็จะทำงานที่เหลือทั้งหมดแทนคุณ อย่างไรก็ตาม คุณควรเปิดการแจ้งเตือนเกี่ยวกับความก้าวหน้าของกลยุทธ์ และผมขอแนะนำให้เปิดการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์บนอุปกรณ์มือถือของคุณเพื่อรับการอัพเดททุกเหตุการณ์ที่สำคัญ

ในความเห็นของผม การใช้ Capitalise.ai ประหยัดเวลาและพลังงานได้อย่างมาก แถมยังใช้งานได้ฟรีอีกด้วย

Tickmill Social Trading

แพลตฟอร์ม Tickmill Social Trading คือแพลตฟอร์มการ copy trade ในตัวของโบรกเกอร์ ซึ่งช่วยให้คุณเชื่อมต่อและคัดลอกการเทรดจากบัญชีอื่นๆ ได้แค่ปลายนิ้ว นอกจากนี้ คุณยังสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ให้กลยุทธ์ (Strategy Provider) เพื่อให้เทรดเดอร์คนอื่นๆ คัดลอกการเคลื่อนไหวของคุณได้ โดยคุณอาจได้รับค่าธรรมเนียมผลการดำเนินงาน ซึ่งสามารถตั้งไว้ได้สูงสุดถึง 50% ของกำไรที่เกิดขึ้น

ทั้ง MT4 และ MT5 สามารถใช้สำหรับ Tickmill Social Trading ได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณมีบัญชี MT4 แต่ผู้ให้กลยุทธ์ที่คุณติดตามกำลังเทรด CFD หุ้น คุณจะไม่สามารถคัดลอกการเทรดเหล่านั้นได้ เนื่องจากหุ้นจะมีเฉพาะใน MT5 เท่านั้น

บัญชีเดโม

Tickmill มีบัญชีทดลองเทรดที่ไม่มีวันหมดอายุสำหรับบัญชีทุกประเภท คุณไม่จำเป็นต้องฝากเงินเพื่อเปิดบัญชี และตราบใดที่คุณล็อกอินอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง บัญชีทดลองจะยังคงใช้งานได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ล็อกอินเข้าสู่บัญชีทดลอง MT4/MT5 ของคุณติดต่อกันเป็นเวลาเจ็ดวัน บัญชีจะหมดอายุโดยอัตโนมัติ

ข้อสรุปเรื่องแพลตฟอร์มการเทรดของ Tickmill

แพลตฟอร์มการเทรด Tickmill

ผมชอบที่ Tickmill เสนอแพลตฟอร์มการซื้อขายที่แสนเรียบง่าย โดยมีเพียง MT4 MT5 และ Tickmill Trader เท่านั้น ซึ่งไม่ได้ส่งผลเสียต่อการใช้งานของคุณแต่อย่างใด เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้มีเครื่องมือและฟีเจอร์ที่ครบครัน เช่น เครื่องมือกราฟขั้นสูง ตัวเลือกการเทรดอัตโนมัติ และการเข้าถึงตราสารทางการเงินที่หลากหลาย เป็นต้น

เยี่ยมชม Tickmill

Tickmill ปลอดภัยไหม

หลังจากการประเมินประวัติการทำงานของพวกเขาอย่างรอบคอบ ผมสามารถบอกได้ว่า Tickmill เป็นโบรกเกอร์ที่ปลอดภัยและมีการกำกับดูแลในหลายเขตอำนาจศาล โบรกเกอร์นี้มีชื่อเสียงที่ดีตั้งแต่เปิดตัวในปี 2014 และปัจจุบันมีบัญชีที่ลงทะเบียนทั้งหมด 785,000 บัญชี ทำให้Tickmill เป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้สำหรับเทรดเดอร์ทั่วโลกที่กำลังมองหาโบรกเกอร์ที่มีความปลอดภัยและมีการกำกับดูแลที่ดี

Trust Score
0
regulation
0
reputation
0
reviews
0

การกำกับดูแล

ในฐานะเทรดเดอร์ในประเทศไทย บัญชี Tickmill ของคุณจะได้รับการคุ้มครองโดยหน่วยงานกำกับดูแล FSA ของเซเชลส์ ซึ่ง FSA เป็นหน่วยงานกำกับดูแลระดับ tier 3 ที่ดูแลการดำเนินงานของโบรกเกอร์ชั้นนำอื่นๆ สำหรับประเทศไทย เช่น IC Markets นอกจากนี้ Tickmill ยังมีการกำกับดูแลในประเทศอื่นๆ ดังนี้:

  1. Tier-1: หน่วยงานกำกับดูแลการเงิน (FCA) สำหรับสหราชอาณาจักร และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ไซปรัส (CySEC) สำหรับสหภาพยุโรป
  2. Tier-2: หน่วยงานกำกับดูแลบริการทางการเงินดูไบ (DFSA) ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
  3. Tier 3: หน่วยงานกำกับดูแลบริการทางการเงินลาบวน (LFSA) ในมาเลเซีย และองค์การกำกับทางการเงิน (FSCA) ในแอฟริกาใต้

นอกเหนือจากการได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับ tier 1 ถึง 3 แล้ว Tickmill ยังมีการป้องกันยอดคงเหลือติดลบ ซึ่งหมายความว่า บัญชีของคุณจะไม่ขาดทุนในจำนวนที่เกินกว่าเงินฝากเริ่มต้นของคุณเมื่อตลาดมีความผันผวนสูง หากยอดคงเหลือในบัญชีของคุณตกต่ำลงไปในระดับติดลบ ระบบจะทำการรีเซ็ตยอดคงเหลือให้กลับมาเป็นศูนย์โดยอัตโนมัติ ช่วยป้องกันไม่ให้คุณต้องเป็นหนี้กับโบรกเกอร์เกินกว่าสิ่งที่คุณลงทุนไป

คะแนน Trustpilot

Tickmill ได้รับคะแนน Trustpilot ที่ 3.8/5.0 จาก 492 รีวิวที่พวกเขาได้รับ

ข้อสรุปเรื่องความน่าเชื่อถือของ Tickmill

ในความเห็นของผม Tickmill เป็นโบรกเกอร์ที่ปลอดภัยสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย เพราะพวกเขามีการควบคุมจาก FSA-Seychelles ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลโบรกเกอร์ชั้นนำอื่นๆ เช่น IC Markets นอกจากนี้ การมีการป้องกันยอดคงเหลือติดลบของ Tickmill ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือ ทำให้มั่นใจได้ว่าเงินทุนของคุณจะได้รับการดูแลในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนอย่างรุนแรง

การฝากและถอนเงิน

Tickmill เสนอตัวเลือกการฝากและถอนเงินที่หลากหลาย พร้อมกับเงื่อนไขเงินฝากขั้นต่ำที่ไม่สูงเกินไป หากฝากเงินจะพบว่าเงินเข้าบัญชี Tickmill ทันที ในขณะที่การถอนใช้เวลา 24 ชั่วโมง5rr    (ในวันทำการ)

นอกจากนี้ ผมยังสังเกตว่าการขอถอนเงินนั้นง่ายมาก คุณสามารถทำได้จากพอร์ทัลของคุณ โดยการถอนจะดำเนินการตามสกุลเงินพื้นฐานของ Wallet ของคุณ ตัวอย่างเช่น หาก Wallet ของคุณเป็นสกุลเงิน USD ถอนเงินของคุณจะเป็นในสกุลเงิน USD

ดังนั้น ผมจึงพบว่าการเลือกสกุลเงินพื้นฐานอย่างรอบคอบในระหว่างการตั้งค่าบัญชีเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะมันมีผลต่อการคำนวณค่าคอมมิชชันและสกุลเงินในการถอน ในกรณีส่วนใหญ่ เมื่อเลือกสกุลเงินพื้นฐานแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

ข้อกำหนดเงินฝากต่ำและสกุลเงินพื้นฐานของบัญชี

เงื่อนไขเงินฝากขั้นต่ำของ Tickmill คือ $100 สำหรับทุกประเภทบัญชี ในฐานะเทรดเดอร์ในไทย คุณสามารถเลือกสกุลเงินพื้นฐานได้สามสกุลเงิน ได้แก่ USD GBP และ EUR เมื่อเติมเงินเข้าบัญชีของคุณ

ช่องทางการชำระเงิน

สำหรับประเทศไทย Tickmill มีวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย รวมถึงการโอนเงินระหว่างประเทศ, การโอนเงินคริปโต, Sticpay, FasaPay, Skrill และ Neteller อย่างไรก็ตาม ข้อเสียที่พบคือ เทรดเดอร์ชาวไทยไม่สามารถฝากเงินด้วยบัตร Visa และ Mastercard ได้

นอกจากนี้ Tickmill ยังไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการฝากและถอน ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นค่าใช้จ่ายในจำนวนที่สูง โดยเฉพาะถ้าคุณทำรายการบ่อยๆ แต่ในบางกรณี ผู้ให้บริการธนาคารและ e-Wallet อาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมของตัวเอง

ข้อสรุปเรื่องการฝากและถอนเงิน

ผมชื่นชมที่ Tickmill มีวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย รวมถึงการชำระเงินด้วยคริปโตและ e-Wallets อย่างไรก็ตาม การไม่มีการชำระเงินด้วยบัตร (Visa หรือ Mastercard) อาจเป็นความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณคุ้นเคยกับวิธีการชำระเงินเหล่านี้

เยี่ยมชม Tickmill

ความหลากหลายของตลาดการซื้อขาย

Tickmill เสนอตลาดการเงินที่หลากหลายสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย รวมถึงฟอเร็กซ์ ดัชนี น้ำมัน โลหะมีค่า พันธบัตร สกุลเงินดิจิทัล และหุ้น ซึ่งทั้งหมดนี้มีให้บริการในรูปแบบของ CFD

ตลาดการซื้อขาย Tickmill

ฟอเร็กซ์

Tickmill เสนอคู่สกุลเงิน 62 คู่ ซึ่งรวมถึงคู่หลัก คู่รอง และคู่พิเศษ คู่ที่มีการซื้อขายกันมากได้แก่ EUR/USD, GBP/USD ,AUD/USD และ USD/JPY ในฐานะเทรดเดอร์ที่อาศัยในประเทศไทย การเทรดฟอเร็กซ์กับ Tickmill จะมีเลเวอเรจสูงสุดถึง 1000:1 ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่คุณใช้ สำหรับ MT4 เลเวอเรจสูงสุดจะอยู่ที่ 500:1 (เลเวอเรจคงที่) และ 1000:1 สำหรับ MT5 (เลเวอเรจแบบไดนามิก)

หุ้น

คุณสามารถเทรดบริษัทสาธารณะเกือบ 500 บริษัทและกองทุนรวมที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ (ETFs) จำนวน 23 กองทุนในรูปแบบ CFD บน MT5 ของ Tickmill โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน นอกจากนี้ คุณยังมีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลเหมือนกับผู้ถือหุ้นปกติเมื่อคุณซื้อหุ้นที่มีเงินปันผล แม้จะทำในรูปแบบ CFD ก็ตาม

โบรกเกอร์ให้บริการซื้อขายในหุ้นที่มีผู้สนใจในจำนวนมาก เช่น Apple Inc (AAPL), Airbnb Inc (ABNB), BlackRock Inc (BLK) และ Alphabet Inc A Share (GOOGL) ในขณะเดียวกัน คุณยังสามารถเลือกเทรด ETF ได้ถึง 23 กองทุน รวมถึง ETF ที่ได้รับความนิยม เช่น SPDR, S&P 500, ETF, Trust (SPY), iShares, Barclays, 20+ Year, Treasury Bond Fund (TLT) และ Invesco QQQ ได้ด้วย

ดัชนี

นอกเหนือจากการมีสเปรดต่ำ การซื้อขายดัชนีกับ Tickmill ยังให้คุณเข้าถึงเลเวอเรจสูงถึง 100:1 โดยโบรกเกอร์นี้มีดัชนีให้เลือกถึง 20 รายการ ไม่ว่าจะเป็น US500, VIX, JP225, DE40 และ FRANCE40

สินค้าโภคภัณฑ์

Tickmill มีสินค้าโภคภัณฑ์ที่หลากหลายสำหรับเทรดเดอร์รายย่อย ทำให้คุณสามารถปรับพอร์ตการลงทุนให้มีความหลากหลายได้ง่ายขึ้น ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เช่น โกโก้ กาแฟ น้ำตาล และข้าวสาลี หรือจะเป็นโลหะอุตสาหกรรม เช่น อลูมิเนียม ทองแดง ตะกั่ว นิกเกิล และสังกะสี และพลังงาน เช่น น้ำมันดิบ, Brent, ก๊าซธรรมชาติ (NATGAS) และ XTIUSD (น้ำมันดิบเทียบกับ USD)

หากคุณกำลังมองหาการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสถียรยิ่งขึ้น Tickmill ก็ยังมีโลหะมีค่า รวมถึง XAUUSD (ทองเทียบกับ USD), XAUEUR (ทองเทียบกับ EUR) และ XAGUSD (เงินเทียบกับ USD) ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยกว่า

สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ โบรกเกอร์มีตัวเลือกเลเวอจ์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ 10:1 ถึง 1000:1 ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่คุณเทรด

พันธบัตร

Tickmill มีพันธบัตรรัฐบาลยุโรปจำนวนสี่รายการ ได้แก่:

  1.  #EURBOBL – พันธบัตรของรัฐบาลกลางเยอรมนีที่มีอายุระยะกลาง
  2.  #EURBUND – พันธบัตรของรัฐบาลกลางเยอรมนีที่มีอายุยาว (มักถูกมองว่าเป็นเกณฑ์มาตรฐานในตลาดพันธบัตรยุโรป)
  3. #EURBUXL – พันธบัตรระยะยาวพิเศษของเยอรมนีที่มีอายุยาวขึ้นไปอีก (โฟกัสที่การเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยระยะยาว)
  4. #EURSCHA – พันธบัตรระยะสั้น (ตราสารที่มีระยะเวลาสั้น)

ด้วยข้อเสนอพันธบัตรเหล่านี้ โบรกเกอร์ทำให้คุณรับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ด้วยเลเวอเรจสูงถึง 100:1

สกุลเงินดิจิทัล

แตกต่างจากสินทรัพย์แบบดั้งเดิม สกุลเงินดิจิทัลสามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งมอบความยืดหยุ่นที่มากกว่าหากคุณกำลังมองหาโอกาสในการลงทุนตลอดเวลา Tickmill มีคู่สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 9 คู่ ได้แก่ ADAUSD, BTCUSD, EOSUSD, ETHUSD, LINKUSD, LTCUSD, SOLUSD, XLMUSD และ XRPUSD โดยเลเวอเรจจะอยู่ระหว่าง 20:1 ถึง 200:1 ขึ้นอยู่กับคู่สกุลเงินดิจิทัลที่มีการเทรด

ข้อสรุปเรื่องความหลากหลายของตลาดการเงินของ Tickmill

Tickmill มีตลาดการเงินที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โลหะมีค่า สินค้าพลังงาน และพันธบัตรรัฐบาล นอกจากนี้ ผมยังชื่นชมที่โบรกเกอร์เสนอเลเวอเรจที่แตกต่างกันสำหรับสินทรัพย์แต่ละประเภท โดยสูงสุดถึง 1000:1 อีกด้วย

การบริการลูกค้า

จากประสบการณ์ของผม การติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Tickmill ทำได้ง่าย พวกเขามีช่องทางการสนับสนุนหลายรูปแบบ เช่น แชทสด อีเมล และโทรศัพท์ โดยแชทสดมีให้บริการในหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย ซึ่งหมายความว่าถ้าคุณมีข้อกังวล คุณสามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาไทยได้แบบเรียลไทม์

อย่างไรก็ตาม เวลาที่ติดต่ออาจเป็นเรื่องท้าทาย เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง และคุณจะไม่ได้รับการตอบกลับในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เนื่องจากบริการนี้มีให้เพียง 24/5 เท่านั้น นอกจากนี้ ผมได้ถามหลายคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของพวกเขา และเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งให้คำตอบที่ไม่สอดคล้องกัน เช่น เมื่อผมถามว่าผม (ซึ่งเป็นเทรดเดอร์จากประเทศไทย) สามารถเทรดออปชั่นและฟิวเจอร์สภายใต้ Tickmill Ltd Seychelles ได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่กลับไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้

ผมถูกแนะนำให้ส่งอีเมลไปยังฝ่ายบริการลูกค้าของ Tickmill หลายครั้งสำหรับคำถามง่ายๆ ซึ่งต้องใช้เวลานานมากในการตอบกลับ และนี่เองที่เป็นจุดที่ผมคิดว่าโบรกเกอร์ควรพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

ข้อสรุปเรื่องการบริการลูกค้าของ Tickmill

จากประสบการณ์ของผม ฝ่ายบริการลูกค้าของ Tickmill ติดต่อได้ง่าย แต่พวกเขาไม่ได้เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวัน หากคุณประสบปัญหากับบัญชีการซื้อขายในช่วงสุดสัปดาห์ อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องเหนื่อยสักหน่อยในการรอความช่วนเหลือจากโบรกเกอร์

เยี่ยมชม Tickmill

การวิจัยและการศึกษา

หากคุณกำลังมองหาวิธีพัฒนาทักษะการซื้อขาย Tickmill มีแหล่งข้อมูลมากมายที่เข้าถึงได้ฟรี โบรกเกอร์มีทุกอย่างตั้งแต่บทความรายวันไปจนถึงการสัมนาออนไลน์ วิดีโอสอน eBooks และแม้กระทั่งรายการเทรดของตัวเองที่ชื่อว่า ‘T-Show’

ผมพบว่าหมวดการศึกษาของพวกเขามีข้อมูลที่มีประโยชน์อยู่มากมาย และรู้สึกดีที่ได้เลื่อนดูส่วนต่างๆ เพราะมีข้อมูลใหม่ๆ ให้เรียนรู้เสมอ อย่างไรก็ตาม ผมสังเกตว่าคอนเทนต์ส่วนใหญ่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มาก ดังนั้นถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้น บางหัวข้ออาจเข้าใจได้ยาก

แต่ก็อย่างที่บอกไป วิดีโอสอนนั้นจัดสรรได้ดี ทำให้คุณยังสามารถเรียนรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฟอเร็กซ์ คริปโต สินค้าโภคภัณฑ์ และ CFDs ตั้งแต่ศูนย์

นี่คือบางส่วนของหมวดหมู่ที่ผมสังเกต เพื่อให้คุณเห็นภาพว่าเป็นอย่างไร:

  • eBooks: ครอบคลุมหัวข้อเช่น การวิเคราะห์ฟีโบนัขชี ต้นทุนในการเทรด และการจัดการความเสี่ยง
  • วิดีโอ: วิดีโอสอนของ Tickmill มีเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับการเทรดฟอเร็กซ์ การวิเคราะห์ตลาด และจิตวิทยาการเทรด
  • การสัมนาออนไลน์: นำโดยมืออาชีพด้านฟอเร็กซ์ในหลายภาษา รวมถึงภาษาอังกฤษและภาษาเยอรมัน
  • อินโฟกราฟิก: ภาพที่เข้าใจง่ายแสดงข้อมูลและสถิติในหัวข้อการเทรด

ข้อสรุปเรื่องพอร์ทัลการศึกษาของ Tickmill

Tickmill มีพอร์ทัลการศึกษาที่ข้อมูลแน่น พร้อมแหล่งข้อมูลฟรีมากมาย มีทั้งหัวข้อการลงทุนและผลิตภัณฑ์การซื้อขายต่างๆ แม้ว่าส่วนหนึ่งจะเหมาะกับผู้ที่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการซื้อขาย แต่ก็ไม่ยากที่นักเทรดมือใหม่จะลองทำความเข้าใจ โดยเฉพาะการศึกษาผ่านทางวิดีโอการสอน

ข้อสรุปสุดท้าย รีวิว Tickmill

Tickmill เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย โดยเฉพาะหากคุณกำลังมองหาการซื้อขายที่มีต้นทุนต่ำ โบรกเกอร์มีสเปรดแคบและค่าคอมมิชชันที่ต่ำมากในบัญชี Raw โดยคิดเพียง $3 ต่อล็อตต่อฝั่ง

ด้วยตลาดที่หลากหลายรวมถึงฟอเร็กซ์ หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ พันธบัตร และสกุลเงินดิจิทัล คุณจะมีความยืดหยุ่นการซื้อขายสินทรัพย์หลายประเภท รวมถึงสินทรัพย์ที่ไม่ค่อยมีให้บริการโดยโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ เช่น พันธบัตรยุโรป นอกจากนี้ คุณยังมีแพลตฟอร์มให้เลือกใช้อย่างเพียงพอ เช่น MetaTrader, 4 MetaTrader 5 และแอพ Tickmill Trader ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเขาเอง

อย่างไรก็ตาม Tickmill ก็มีข้อจำกัด โดยเฉพาะการที่คุณไม่สามารถฝากเงินผ่านบัตร (Visa/Mastercard) และยังมีข้อจำกัดเรื่องเวลาในการบริการลูกค้า และความสับสนของตัวแทนในการตอบคำถามที่เกี่ยวกับข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการ

โดยรวม หากคุณมุ่งเน้นที่การลดต้นทุนการซื้อขายและสามารถทนกับความไม่สะดวกเล็กน้อยเหล่านี้ได้ Tickmill ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่น่าสนใจ

เยี่ยมชม Tickmill

คำถามที่พบบ่อย

Tickmill มีบัญชีหลักสองประเภท ได้แก่ บัญชี Classic และบัญชี Raw บัญชี Classic มีสเปรดเริ่มต้นที่ 1.6 pips โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน ส่วนบัญชี Raw เสนอสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips พร้อมค่าคอมมิชชัน $3 ต่อฝั่ง ทั้งสองบัญชีต้องการเงินฝากขั้นต่ำ $100 และมีเลเวอเรจสูงสุดถึง 1000:1 บน MT5

ใช่ครับ Tickmill เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย โดยเฉพาะหากคุณกำลังมองหาการเทรดที่มีต้นทุนต่ำ โดยเฉพาะบัญชี Raw ที่มีค่าคอมมิชชั่นต่ำสุดและสเปรดที่แคบ นอกจากนี้ Tickmill ยังให้การเข้าถึงตลาดที่หลากหลาย รวมถึงฟอเร็กซ์ หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี พันธบัตร และสกุลเงินดิจิทัลอีกด้วย

Tickmill รองรับ MetaTrader 4 (MT4) MetaTrader 5 (MT5) และแอปมือถือของพวกเขาเอง (Tickmill Trader) แม้ว่าตัวเลือกจะจำกัดอยู่เพียงสามแพลตฟอร์ม แต่ทั้ง MT4 และ MT5 เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางและมีฟีเจอร์ที่ครบครันสำหรับการสร้างกราฟ การวิเคราะห์ และการเทรดอัตโนมัติ

มีครับ Tickmill มีแหล่งข้อมูลการศึกษาฟรีที่หลากหลาย รวมถึง eBooks วิดีโอสอน การสัมนาออนไลน์ และอินโฟกราฟิก เนื้อหาเหล่านี้ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ เช่น การเทรดฟอเร็กซ์ การวิเคราะห์ตลาด และกลยุทธ์การเทรด อย่างไรก็ตาม เนื้อหาส่วนใหญ่มักเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ระดับกลางและระดับสูง แต่ว่าผู้เริ่มต้นก็ยังสามารถได้รับประโยชน์จากวิดีโอสอนที่จัดสรรมาเป็นอย่างดีของพวกเขา

ใช่ครับ Tickmill ได้รับการกำกับดูแลจากหลายหน่วยงาน รวมถึงสำนักงานบริการทางการเงิน (FSA) ของเซเชลส์สำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย นอกจากนี้พวกเขายังมีการป้องกันยอดคงเหลือติดลบ ซึ่งรับประกันว่าคุณจะไม่สูญเสียมากกว่าที่เงินฝากตั้งต้นของคุณในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง

ทางเลือกแทน Tickmill

Pepperstone
IC Markets
Eightcap
Exness
MiTrade
FBS
FxPro
XM
eToro
OANDA
FXCM
IQ Option
XTB
BlackBull Markets
HFM
About the author:

Justin Grossbard

Justin เริ่มต้นเทรดตั้งแต่ปี 1998 และได้นั่งตำแหน่งประธานคณะผู้บริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้งของ CompareForexBrokers เมื่อปี 2004 ในหลายปีนี้ Justin ได้เผยแพร่บทความทางการเงินมากกว่า 100 บทความ บน Forbes, Kiplinger ไปจนถึง Finance Magnates เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีในสาขาวิชาพาณิชยศาสตร์ และมีบทบาทสำคัญในชุมชนฟินเทคมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนและการซื้อขาย ที่เผยแพร่เมื่อปี 2023 อีกด้วย